รองผู้ว่าฯร้อยเอ็ด ยันย้ายนายอำเภอ ไม่เกี่ยวเงินตำบลละ5ล้าน

นายอนุสรณ์ แก้วกังวาน ผวจ.ร้อยเอ็ด เปิดถึงกรณีที่นายอาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง มีคำสั่งด่วนย้าย 2นายอำเภอ ในจ.ร้อยเอ็ด ไปช่วยราชการกรมการปกครองเป็นการประจำตั้งแต่วันที 4 พ.ย.58 ตามที่เป็นข่าวระบุว่า มีการกระทำที่ไม่ชอบมาพากลในพื้นที่ด้าการดำเนินการงบประมาณตำบลละ 5 ล้านบาท ตนเองยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการร้องเรียน เป็นการร้อเรียนยังกรมการปกครองโดยตรงไม่ได้ผ่านจังหวัดร้อยเอ็ด จึงไม่ทราบรายละเอียด ของเรื่องทั้งหมด ซึงก็ให้เป็นตามนั้น ส่วนจะเป็นความผิดหรือไม่อย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ส่วนกลางจะเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และแต่ก็ยืนยันว่าก่อนหน้านั้นมีการร้องเรียน เรื่องราวที่เกิดขึ้นในลักษณะเข้าใจผิดการดำเนินการ ในพื้นที่อยู่บ้าง ซึ่งไม่เป็นปัญหา และหลังจากเกิด เรื่องนี้ได้กำชับให้มีแต่ละอำเภอที่รับผิดชอบ ตรวจสอบการทำงานให้เข้มงวดและโปร่งใสให้เกิดความขัดเจนมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด และทำให้ประชาชนเข้าใจผิด จนขาดความเชื่อมั่น จนเป็นปัญหาในพื้นที่อีกโดยเด็ดขาด

    นายอนุสรณ์ กล่าวย้ำว่า ตนยังตอบและยังพูดไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นคนย้ายนายอำเภอทั้ง 2 คนต้องรอความชัดเจน ในการตรวจสอบจากที่ถูกกรมการเรียกไปสอบก่อน ตอนนี้ ยังไม่ถือเป็นความผิด ยังเป็นแค่การร้องเรียนกัน ซึ่งผู้ตรวจการกรมการปกครอง จะลงมาตรวจสอบเรื่องนี้เองในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ในพื้นที่ร้อยเอ็ดเรื่องนี้ตอนนี้ กำชับเฝ้าระวัง ให้ทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบมากขึ้นนอกจาก 2 อำเภอ ที่ถูฏสั่งให้หยุดการทำงานต่อแล้วย้ายไปแล้วและตรวจสอบแล้วอำเภออื่น 17 อำเภอยังไม่มีปัญหาอะไร

ด้านนายธนวัฒน์ พลอยโสภณ รอง ผวจ.ร้อยเอ็ด ซึ่งดูแลโครงการหมู่บ้านละ 5 ล้านบาทของจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า โครงการดังกล่าวของจังหวัดร้อยเอ็ด ทั้งจังหวัด 3,540 โครงการ วงเงินกว่า 900 ล้านบาท สำหรับ 2 อำเภอ ที่ นายอำเภอโดนย้ายนั้น อ.พนมไพร เสนอโครงการ 65 ล้านบาท อ.เสลภูมิ เสนอโครงการวงเงิน 89 ล้านบาททั้งจังหวัด ยังไม่มีการอนุมัติโครงการ ยังไม่มีการอนุมัติ ยังไม่ได้รับความเห็นชอบแม้แต่โครงการเดียวจากสำนักงบประมาณ แม้แต่โครงการเดียวการที่กรมการปกครองสั่งย้าย และย้ายนายอำเภอ 2 คน ยังไม่ถือว่าเกี่ยวกับการทุจริตโครงการตำบลละ 5 ล้านบาทแต่อย่างใด ในทางปฏิบัติยังไม่มีแม้แต่การจัดซื้อจัดจ้างใดๆ ที่เข้าข่ายทุจริตประพฤติมิชอบใดๆทั้งสิ้น ยังไม่มีปัญหาอะไร เลยอาจจะย้ายเพื่อแก้ปัญหาอะไรบางอย่างในพื้นที่ หรือกรมฯอาจจะเห็นความสามารถที่จะสั่งให้เข้าไปเพื่อช่วยเหลือด้านราชการอื่นที่ตรงกับความสามารถของทั้ง 2 คนก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งเรื่องนี้ทางจังหวัดไม่มีใครทราบ และยังมีสิทธิ์ที่จะกลับมาเป็นนายอำเภอเหมือนดิมเพื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วถ้าไม่มีความผิด

ภาพจาก-www.oknation.net/mblog/entry.php?id=957384