เตือนภัย! สาว24โดนคนขับแท็กซี่ฉุดกระชาก ปมค่ารถขาดอีก20บ.

เตือนภัย! สาว24โดนคนขับแท็กซี่ฉุดกระชาก ปมค่ารถขาดอีก20บ.

เหตุคลิปฉาว! สาว24โดนคนขับแท็กซี่ฉุดกระชาก ปมค่ารถขาดอีก20บาท โพสต์เฟซฯเตือนภัยผู้หญิงกลับบ้านดึกคนเดียว ลุยแจ้งความตร.จัดการ

จากกรณีเพจเฟซบุ๊คดัง เปิดเผยเหตุการณ์ของกลางดึกวันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 03.00 น. เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของ วีวีเอส แมนชั่น ซึ่งอยู่ย่านมีนบุรี ปรากฏภาพเหตุการณ์ชายแต่งกายคล้ายคนขับรถแท็กซี่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากผู้หญิงคนหนึ่ง โดยหญิงสาวที่อยู่ในคลิปใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า “นู๋ อุ้ม จอ แบน” ระบุเหตุการณ์ว่า ตนเพียงแค่จะเข้าห้องไปเอาเงินค่าโดยสารที่ขาดไป 20 บาท แต่กลับถูกคนขับรถแท็กซี่ตามเข้ามาในแมนชั่นพร้อมพยายามฉุดให้ขึ้นไปบนรถ แต่ตนพยายามหนีและร้องให้คนช่วยจนรอดมาได้ ซึ่งภาพดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของคนขับแท็กซี่เป็นจำนวนมาก

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 พ.ค.2559 ร.ต.ท.ฉัตรพล เผ่นโผน รองสารวัตร(สอบสวน) สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจริง โดย น.ส.อรทัย สุขบัณฑิตย์ อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันเอาไว้เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งให้การว่า ได้โดยสารแท็กซี่คันดังกล่าวมาจากบางเขน มาตามถนนรามอินทรา เมื่อมาถึงแมนชั่นดังกล่าว ตนและคนขับแท็กซี่ก็มีปัญหากันเรื่องค่าโดยสาร ก่อนจะถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้นตนจึงออกเอกสารส่งตัวไปตรวจร่างกาย เพื่อมาประกอบสำนวนคดี และนัดมาให้ปากคำในวันที่ 13 พ.ค. อีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊คส่วนตัวชื่อ "นู๋ อุ้ม จอ แบน" โพสต์ข้อความว่า " เรื่องนี้เป็นเรื่องเตือนใจ สำหรับผู้หญิงที่ต้องกลับบ้านดึก ควรระวังตัวให้มากๆ เมื่อวันที่8เดือนพ.ค. ที่ผ่านมาเราได้นั่งแท็กซี่จากบางเขนเพื่อมาลงหอพักที่รามอินทรา แต่ตอนนั้นเป็นเวลาดึกแล้ว จึงทำให้บริเวณซอยหอพักที่เราอยู่ ดูเปลี่ยวผิดกับตอนกลางวันมาก จึงทำให้แท็กซี่คนนี้กล้าทำอุกอาจ พยายามจะทำร้ายเราดังภาพที่เห็น เพียงเพราะค่าโดยสาร ขาดแค่ 20 บาท เมื่อเวลาประมาณเกือบตี 3 ของวันนั้น พอแท็กซี่หยุดรถที่หน้าตึก มิเตอร์บอกราคาว่าราคา 220 บาท ซึ่งที่ตัวเรามีติดตัวอยู่เพียงแค่ 200 เราจึงบอกแท็กซี่ไปว่า ให้รอแปบนึง เพื่อที่เราจะเอาเศษที่ค้างไว้ 20 บาทไปให้ โดยที่เราทิ้งกระเป๋าอีกใบไว้บนรถ

แต่แท็กซี่คนนี้กลับบอกว่า #ทำไมน้องไม่ทิ้งโทรศัพท์ไว้ล่ะ เราก็ไม่ได้สนใจ ลงรถไปและกลับไปหยิบเงินในห้องออกมาอีก 50 บาท เพื่อเอาไปให้แท็กซี่คนนี้ แต่พอเราไปถึงที่รถ กลับไม่มีคนขับอยู่บนรถ เราจึงก้มหยิบกระเป๋าจากหลังรถที่เราวางไว้ แต่กลับโดนแท็กซี่คนนี้อ้อมมาจากด้านหลัง จับหัวเรากดลงไปในหลังรถ ด้วยความตกใจ เราจึงเด้งตัวถีบแท็กซี่คนนี้แล้ววิ่งเข้ามาในตึก แต่แท็กซี่ก็ยังไม่หยุด วิ่งตามกลับมาฉุดกระชากลากถูเรา พยายามดึงเราให้ไปขึ้นบนรถ เดชะคุณที่แม่บ้านประจำตึกตื่นขึ้นมาเพราะเสียกเราตะโกนโวยวายและคนอื่นๆในตึกก็ตื่น เราจึงปลอดภัยไม่ได้โดนแท็กซี่คนนี้ลากไปทำร้ายอะไร มีก็เพียงแต่รอยฟกช้ำตามแขนขา ที่เราขัดขืนต่อสู้กับผู้ชายคนนี้

ปล.แท็กซี่คันนี้ป้ายทะเบียนรถข้างประตูหลังผู้โดยสารไม่ติดให้ชัดเจน (ไม่มี )ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันแชร์ค่ะ เราพยายามจะเอาเรื่องแต่ไม่สามารถทำได้เพราะจำป้ายทะเบียนแท็กซี่คันนี้ไม่ได้ค่ะถึงเอาเรื่องไม่ได้แต่เราก็อยากแชร์ให้เพื่อนระวังตัวไว้ว่าขึ้นแท็กซี่คันนี้ไม่ปลอดภัย ถ้าตกหล่นตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ ประสปการณ์นี้จะจดจำไปจนตาย(กลัว)"

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ชูพันธุ์รอง ผกก.ป.สน.มีนบุรี ร.ต.อ.วัชรพล ควพุนพิน รอง สว.ป. เข้ามาตรวจสอบที่วีวีเอส แมนชั่น เลขที่ 5/3 ซ.รามอินทรา 115 แยก 5 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. พร้อมสอบถามเบื้องต้นกับน.ส.อรทัย

น.ส.อรทัย เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ตนกลับจากบ้านเพื่อนในซอยรามอินทรา 19 ได้เรียกแท็กซี่สีเขียวเหลืองคันเกิดเหตุให้ไปส่งที่พักภายในซอยรามอินทรา 115 โดยตนนั่งที่นั่งด้านหลังเยื่องกับคนขับ พร้อมด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าอีก 1 ใบ ตลอดเส้นทางไม่ได้มีการพูดคุยแต่อย่างใด ส่วนตัวคนขับแท็กซี่ไม่ได้แสดงอาการอะไร เมื่อถึงบริเวณหน้าแมนชั่นมิเตอร์ขึ้นราคาโดยสาร 220 บาท แต่ตนมีเงิน 200 บาท จึงบอกแท็กซี่ให้รอก่อนจะไปเอาเงินจากห้องพักมาให้พร้อมกับทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าเอาไว้ในรถเพราะเป็นหลักประกันว่าจะกลับมา แต่เมื่อตนหยิบเงินจะเอามาให้กลับไม่เห็นคนขับแท็กซี่ภายในรถจึงเปิดประตูหลังและเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้า
ปรากฏว่าแท็กซี่คนดังกล่าวได้พุ่งมาด้านหลังและกดหัวให้เข้าไปในตัวรถ แต่ตนได้ใช้เท้าทีบจนสะบัดหลุดมาได้ แล้วเข้ามาในแมนชั่น โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าวก็ยังตามมาฉุดกระชากตนโดยไม่ได้มีการบอกว่าต้องการอะไร ขณะนั้นตนก็ได้ตะโกนเรียกให้คนช่วยพร้อมกับบอกว่ามีกล้องวงจรปิดติดอยู่จนแม่บ้านของแมนชั่น และผู้ที่เช่าห้องตื่นออกมาเห็นเหตุการณ์หลายคน คนขับแท็กซี่จึงยอมปล่อยและอ้างว่าตนว่ายังให้เงินไม่ครบ ตนจึงบอกว่าให้นับดูให้ดีก่อน หลังจากนั้นคนขับแท็กซี่คันดังกล่าวจึงนับเงินแบบรีบๆก่อนจะเดินไปขึ้นรถและขับรถออกไป ตนจึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ตนไปตรวจร่างกายแต่ตนมีเงินไม่พอจึงยังไม่ได้ไปตรวจซึ่งในวันพรุ่งนี้ (12พ.ค) ตนจะไปตรวจร่างกายให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป