มิลเลียนแนร์ เบ็คแฮม กับอาณาจักรนอกฟุตบอล

มิลเลียนแนร์ เบ็คแฮม กับอาณาจักรนอกฟุตบอล

หากจะพูดถึงนักฟุตบอล ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา หนึ่งชื่อที่หลายๆ คนเลือก

 คงหนีไม่พ้น เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ที่เคยผ่านการเล่นให้สโมสรชั้นนำมากมาย ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, เอซี มิลาน และ แอลเอ กาแล็คซี

นอกจากภาพลักษณ์อันโดดเด่น เบ็คแฮม ยังเป็นที่ยอมรับในอีกหลายด้าน ทั้งความเป็นผู้นำในสนาม ฟรีคิกที่แม่นยำราวจับวาง รวมถึงความขยันและทุ่มเทสมเป็นมืออาชีพ จึงไม่แปลกที่เจ้าตัว จะได้รับการยกย่องให้เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ และนักเตะอาชีพหลายคนในปัจจุบัน

แม้จะแขวนสตั๊ดไปแล้วตั้งแต่ปี 2013 แต่เรื่องราวของ เบ็คแฮม ยังคงปรากฏทางสื่อต่างๆเสมอ ทั้งในฐานะนายแบบโฆษณาสินค้า ตัวแทนขององค์กรการกุศลในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการทำธุรกิจในด้านต่างๆ

 ขณะที่นักฟุตบอลอาชีพหลายคน ล้มเหลวกับการใช้ชีวิตหลังสิ้นสุดอาชีพพ่อค้าแข้ง แต่สำหรับ “โกลเด้นบอล” แล้ว นับวัน ชื่อเสียงและความร่ำรวยของอดีตนักเตะวัย 41 ปี จะมั่งคั่งยิ่งขึ้นเรื่อย จนเคยมีการบันทึกไว้ว่าเจ้าตัวเป็นนักกีฬาที่ร่ำรวยที่สุดหลังการรีไทร์ เป็นรองเพียง ไมเคิล จอร์แดน คนเดียวเท่านั้น

เฉพาะในปีนี้ เบ็คแฮม ทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 11.1 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 478 ล้านบาท เฉลี่ยต่อสัปดาห์อยู่ที่ 220,000 ปอนด์ หรือกว่า 9.5 ล้านบาท สูงกว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดของพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน 

ฟุตบอลสู่แฟชั่นไอคอน 

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีบนเส้นทางสายลูกหนัง เดวิด โรเบิร์ต โจเซป เบ็คแฮม จัดเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุด คว้าแชมป์รายการใหญ่ร่วมกับต้นสังกัดได้ถึง 12 รายการ และติดทีมชาติอังกฤษไปถึง 115 นัด

การคบหาและใช้ชีวิตคู่ร่วมกับ วิคตอเรีย อดัมส์ อดีตนักร้องสาว สไปซ์ เกิร์ล เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ เบ็คแฮม มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น และขยายขอบเขตออกจากเกมฟุตบอล ไปสู่วงการบันเทิงและแฟชั่น 

เบ็คแฮม เสริมบุคลิกของตนด้วยการแต่งกายที่เหมาะสมและดูดี กระทั่งกลายเป็นแบบอย่างของผู้ชายยุคใหม่ที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น กระทั่งได้รับการทาบทามจากแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำของโลก อาทิ เอช แอนด์เอ็ม, อาร์มานี และอาดิดาส และมีกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม 

ลำพัง ผลิตภัณฑ์ของ อาดิดาส ทั้งเสื้อและรองเท้าสตั๊ดรุ่นที่เจ้าตัวเป็นพรีเซนเตอร์ ก็ทำยอดจำหน่ายทั่วโลกได้ถึง 1 พันล้านปอนด์ หรือราวๆ 44,000 ล้านบาท จึงไม่แปลกที่เจ้าตัวจะได้รับความสนใจจากสินค้าอีกหลากหลายชนิด ต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน

นักธุรกิจชั้นนำ

หลังแขวนสตั๊ด เบ็คแฮม ใช้คอนเนคชั่นทั้งของตน และภรรยา ที่เป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ ผันตัวมาจับธุรกิจด้านแฟชั่น และบันเทิงอย่างเต็มตัว ทั้งการผลิตน้ำหอมภายใต้แบรนด์ตัวเอง ร้านอาหาร รวมการจัดตั้งบริษัท “ฟุตเวิร์ค โปรดักชั่นส์” เพื่อทำหน้าที่ดูแลลิขสิทธิ์ และภาพลักษณ์ของตน ซึ่งทำกำไรให้กับเจ้าตัวและครอบครัวอย่างมหาศาล 

นับเฉพาะในปีนี้ “ฟุตเวิร์ค โปรดักชั่นส์” ทำกำไรเพิ่มจากปีที่แล้ว 2.2 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 95 ล้านบาท 

ด้วยความเป็นไอคอนที่มีแฟนเบสอยู่ทั่วโลก ยังทำให้ เบ็คแฮม มีโอกาสขยับขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่นการจับมือกับ ลู่เหนิง กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในจีน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร ชานตง ลู่เหนิง ตั้งแต่เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว และในวัน “ซิงเกิลเดย์” เมื่อ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็เพิ่งเดินทางไปร่วมในงาน โกลบอล ช็อปปิง เฟสติวัล เคาท์ดาวน์ กาลา ที่เสิ่นเจิ้น ของอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของจีนด้วย

ท็อปไฟฟ์

ในการจัดอันดับอดีตนักกีฬาที่มีรายได้สูงสุดประจำปี 2016 ของนิตยสาร ฟอร์บส์ อันดับ 1 ยังคงเป็น ไมเคิล จอร์แดน ตำนานนักบาสเกตบอลของ ชิคาโก บูลล์ส ที่ทำรายได้ไปถึง 110 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 3,889 ล้านบาท

ขณะที่ เบ็คแฮม ซึ่งไม่ใช่นักกีฬาอเมริกันเกมส์เพียงคนเดียวในท็อปไฟฟ์ รั้งอันดับ 2 ด้วยรายได้รวม 65 ล้านดอลลาร์ 2,297 ล้านบาท เหนือกว่า อาร์โนลด์ พาลเมอร์ ตำนานกอล์ฟผู้ล่วงลับ (40 ล้านดอลลาร์) จูเนียร์ บริดจ์แมน อดีตนักบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (32 ล้านดอลลาร์) และ เจอร์รี ริชาร์ดสัน นักอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล (30 ล้านดอลลาร์) 

โรเบิร์ต เฮกส์ ผู้อำนวยการของ แบรนด์ ไฟแนนซ์ ให้ทรรศนะถึง เบ็คแฮม และครอบครัวในฐานะนักธุรกิจว่า นักกีฬาหลายคนจะพบว่ามูลค่าทางการตลาดของตน จะหายไปอย่างรวดเร็วหลังรีไทร์ แต่เรื่องนั้นไม่เกิดขึ้นกับ เบ็คแฮม เพราะ ณ ปัจจุบัน เขาเป็นแม่แบบในเรื่องไลฟ์สไตล์ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ ทุกวันนี้ แบรนด์เพาเวอร์ ของเบ็คแฮม ไปไกลเกินกว่าวงการฟุตบอลแล้ว”