ได้เวลาคืนสังเวียน โรเจอร์ เฟเดอเรอร์
เป็นเวลานานเกือบครึ่งปีแล้วที่ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตนักเทนนิสมือหนึ่งโลก ห่างหายไปจากวงการ
รายการสุดท้ายที่เราเห็นสุดยอดนักหวดชาวสวิสบนคอร์ท คือเกมรอบรองชนะเลิศ วิมเบิลดัน ที่เจ้าตัวแพ้ต่อ มิลอส ราโอนิช 2-3 เซต เมื่อ 7 ก.ค.
ในเซตตัดสินของแมตช์นั้น เฟเดอเรอร์ ออกอาการล้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่เพียงต้องขับเคี่ยวกับ ราโอนิช แต่ยังรวมถึงอาการบาดเจ็บที่เข่าซ้าย และสังขารที่ร่วงโรยไปตามวัย คล้ายบอกเป็นนัยถึงปลายทางที่รออยู่สำหรับแชมป์แกรนด์สแลม 17 สมัยผู้นี้
ย้อนกลับไปในเดือน ก.พ. เฟเดอเรอร์ ต้องเข้ารับการผ่าตัดเข่าเป็นครั้งแรกนับแต่เล่นอาชีพ จนพลาดไม่ได้ลงสนามนานถึงสองเดือน ก่อนคืนสู่คอร์ทอีกครั้งที่ วิมเบิลดัน แต่หลังจบแมทช์กับ ราโอนิช เจ้าตัวก็ประกาศถอนตัวจาก โอลิมปิก หนึ่งในเป้าหมายที่เจ้าตัวตั้งใจไว้ ก่อนประกาศขอพักยาวจนจบฤดูกาลในที่สุด
หกเดือนที่เปลี่ยนไป
ระยะเวลาหกเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการห่างหายจากการแข่งขันนานที่สุดสำหรับ เฟเดอเรอร์ นับแต่เทิร์นโปร ในปี 1998 พร้อมกับเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น แอนดี มาร์รีย์ เบียด โนวัค ยอโควิช ขึ้นเป็นมือหนึ่งโลก ขณะที่ สแตน วาวรินกา เพื่อนร่วมชาติ ได้แชมป์แกรนด์สแลมหนแรกในชีวิต ใน ยูเอส โอเพน ฯลฯ
แต่ตอนนี้ เฟเดอเรอร์ ในฐานะมือ 16 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับต่ำสุดสำหรับเจ้าตัวในรอบ 15 ปี พร้อมแล้ว สำหรับการคัมแบ็กจากช่วงเวลาที่เจ้าตัวให้นิยามว่า “การรีไทร์ชั่วคราว”
“ที่จริง ผมเคยคัมแบ็กมาแล้วครั้งหนึ่งในเดือนเม.ย. ที่โมนาโก เพราะผมไม่เคยเข้ารับการผ่าตัดมาก่อน” เฟเดอเรอร์ กล่าว “แต่หนนี้มันนานกว่ากันมาก ฉะนั้น การคัมแบ็กคราวนี้ จะเป็นเหตุการณ์ที่ต่างออกไปในชีวิตการเล่นอาชีพของผม”
ในวัย 35 ปี เฟเดอเรอร์ ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว 17 แชมป์แกรนด์สแลม และอื่นๆ อีก 71 รายการ คือหลักฐานยืนยันมาตรฐานที่เจ้าตัวรักษาไว้ได้ยาวนานกว่าตำนานนักเทนนิสคนไหนๆที่เคยมี
แม้จะยอมรับว่าสนุกกับการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ร่วมกับ เมียร์กา ภรรยา และลูกๆอีกสี่คน แต่ เฟเดอเรอร์ ยังยืนยันว่าการเลิกเล่น “อย่างเป็นทางการ” ยังไม่เคยอยู่ในความคิดของตน และแม้จะไม่ได้ลงสนาม แต่ “เฟด” ก็คอยติดตามข่าวสารในวงการตลอด รวมถึงการดวลระหว่าง มาร์รีย์ และ ยอโควิช ที่ลอนดอน เพื่อชิงความเป็นเบอร์หนึ่งโลก เมื่อเดือนพ.ย.ด้วย
“ผมแปลกใจมาก เพราะตอนต้นฤดูกาล โนวัค เพิ่งได้แชมป์ เฟรนช์ โอเพน เป็นครั้งแรก และเป็นสแลมที่สี่ติดต่อกัน คงไม่มีใครคิดว่าพอจบฤดูกาล ตำแหน่งมือหนึ่งโลกจะเปลี่ยนไป ที่จริงเขาก็ไม่ได้เล่นแย่มากนักในครึ่งปีหลัง เขาได้แชมป์ที่โตรอนโต และก็เข้าชิง ยูเอส โอเพน กับ เอทีพี ทัวร์ ไฟนอลส์ แต่สิ่งที่ มาร์รีย์ ทำมันเหนือไปอีกขั้น ผมต้องยอมรับว่าเขาทำได้ดีมากจริงๆ”
“โนวัค ก็เป็นมนุษย์คนนึง ไม่แปลกที่เขาอาจจะผ่อนตัวเองลงไปหลังจากเพิ่งได้สิ่งที่ต้องการ” เฟเดอเรอร์ เปรียบเทียบกับประสบการณ์ส่วนตัว ในการคว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพน หนแรก เมื่อปี 2009 “ผมว่าเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นว่าในวงการเทนนิส ไม่มีอะไรง่ายดายเสมอไป มันจะทำให้ปีหน้ายิ่งสนุกขึ้น ผมก็หวังว่าตัวเองจะได้เจอกับเรื่องดีๆบ้างในการกลับมาครั้งนี้ ออสเตรเลียน โอเพน จะเป็นรายการที่สนุกแน่นอน”
ช้าแต่ชัวร์
เฟเดอเรอร์ ให้เหตุผลถึงการตัดสินใจพักยาวทั้งฤดูกาล หลังจบ วิมเบิลดัน เป็นเพราะต้องการให้ร่างกายพร้อมที่สุด สำหรับฤดูกาลใหม่ที่จะมาถึง “ผมเคยคิดว่าน่าจะใช้เวลาให้นานกว่านี้หลังการผ่าตัด”
แม้จะตัดสินใจพัก ไม่ลงแข่งใน เฟรนช์ โอเพน หยุดสถิติการเข้าร่วมใน แกรนด์สแลม ติดต่อกันไว้ที่ 65 รายการ แต่ เฟเดอเรอร์ ก็พบว่าการกลับมาลงสนามอีกครั้ง ใน วิมเบิลดัน ยังเร็วเกินไปสำหรับสภาพร่างกายในเวลานั้น
“แต่มันไม่ถึงกับทำให้ผมต้องพักยาวตลอดทั้งฤดูกาลหรอก ผมแค่คิดว่าเข่าและร่างกายต้องการพักบ้าง เพื่อให้หายดี ตอนนี้ผมแค่คิดว่าถ้ามันยังไม่ดีขึ้น ก็ถือว่าผมทำเท่าที่ทำได้แล้ว ไม่มีอะไรต้องเสียใจอีก”
การฟื้นฟูร่างกายกลับมาในครั้งนี้ เกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการเร่งรัดใดๆทั้งสิ้น “สามเดือนแรก ผมซ้อมแค่วันละชั่วโมงเท่านั้น” เฟเดอเรอร์ กล่าวว่าการเรียกความฟิต ภายใต้การดูแลของ ปิแอร์ ปากานินี ฟิตเนสโค้ชส่วนตัว ไม่มีการฝืนซ้อมแบบต่อเนื่องเหมือนที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็เพิ่งได้ลงซ้อมในคอร์ทแบบเต็มที่ ในการกลับเข้าเทรนนิงแคมป์ที่ดูไบตามปกติ เมื่อปลายเดือนพ.ย. นี่เอง
"ตอนนี้ ผมรู้แล้วว่าชีวิตหลังเลิกเล่นเป็นยังไง จู่ๆ ชีวิตผมก็เข้าที่เข้าทาง และก็ได้นอนอยู่บ้านติดต่อกันสี่สัปดาห์ ออกไปทานมื้อค่ำกับเพื่อนๆ หรือเชิญใครมาทานที่บ้าน“ เฟเดอเรอร์ กล่าวแบบติดตลก
”ผมสนุกกับช่วงเวลานั้น มันให้ความรู้สึกดีมากจริงๆ แต่มันยังไม่ถึงเวลา สำหรับผมแล้ว เรื่องแบบนั้น ยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้แน่นอน"