รพ.ธรรมศาสตร์ ชี้แจงกรณีผู้ป่วยผ่าตัดคลอดเด็กเสียชีวิต
ปมร้อน! รพ.ธรรมศาสตร์ แถลงชี้แจง การรักษาพยาบาลผู้ป่วย ผ่าตัดคลอดแล้วเด็กเสียชีวิต
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 พ.ค.60 รศ.นพ.จิตตินัดด์ หะวานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายแผนและพัฒนาคุณภาพ ร่วมแถลงข่าวกรณีผู้ป่วยคลอดแล้วเด็กเสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 พ.ค.60
กรณีมีกระแสข่าวพ่อข้องใจ ส่งศพลูกไปผ่าพิสูจน์รพ.ตำรวจหาสาเหตุ เสียชีวิตในครรภ์ นายธีรวัฒน์ ชาตรี อายุ32 ได้เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อติดต่อและดำเนินการเรื่องใบรับส่งศพบุตรสาวอายุครรภ์ 7 เดือน ที่ไปคลอดที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อจะให้นำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ตำรวจ ที่คาดว่ามีความน่าเชื่อถือกว่า ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจออกใบรับส่งศพเสร็จเรียบร้อยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงนำร่างอันไร้วิญญาณของ ด.ญ.อายุครรภ์ 7 เดือน ที่มีรูปร่างครบสมบูรณ์ไปที่ รพ.ตำรวจ ทันที
รศ.นพ.จิตตินัดด์ หะวานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติขอร่วมแสดงความเสียใจกับผู้ป่วยและครอบครัวอย่างสุดซึ้ง ต่อการสูญเสียในครั้งนี้ และขอเรียนชี้แจงว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โรงพยาบาลได้ดำเนินการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ทันที ซึ่งพบข้อเท็จจริงดังนี้
ผู้ป่วยหญิง อายุ 33 ปี ตั้งครรภ์แรกอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ วันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ไปตรวจที่คลินิกด้วยอาการตกขาวมีมูกเลือดปนปริมาณเล็กน้อย แพทย์ได้ตรวจร่างกายพบว่าปกติ จึงแนะนำให้พัก และให้ยาช่วยยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอด เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 เวลาประมาณ 13.35 น. ผู้ป่วยมาตรวจที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ฯ ด้วยอาการ ปวดท้อง มีเลือดออกจากช่องคลอด แพทย์ได้ตรวจฟังเสียงทารกในครรภ์ไม่พบเสียงหัวใจเต้น จึงได้ส่งพบแพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวชกรรมทันที ซึ่งได้ตรวจครรภ์ด้วยการอัลตราซาวด์ พบว่าทารกอยู่ในท่าก้น ไม่พบเสียงหัวใจเต้น
ซึ่งการรักษาพยาบาล เนื่องจากทารกเสียชีวิตในครรภ์แล้ว แพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวชกรรม จึงได้ทำการกระตุ้นคลอด ต่อมาพบว่าปากมดลูกไม่เปิด หากทิ้งไว้มีความเสี่ยงต่อชีวิตมารดา แพทย์ผู้ดูแลจึงให้การรักษาด้วยการผ่าตัด เมื่อผ่าตัดเปิดหน้าท้อง พบมดลูกมีลักษณะคล้ำดำ ทารกมีลักษณะเสียชีวิตมาแล้ว หลังจากผ่าตัดเอาทารกออก เกิดภาวะมดลูกไม่แข็งตัว แพทย์ได้ให้ยาช่วยให้มดลูกแข็งตัวอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถช่วยให้มดลูกกลับมาสู่ภาวะปกติได้ ประกอบกับผู้ป่วยมีการเสียเลือดขณะผ่าตัดมาก ประมาณ3,500มิลลิลิตร ซึ่งอาจส่งผลอันตรายแก่ชีวิตแม่ได้แพทย์จึงพิจารณาตัดมดลูกออก
ด้านผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายแผนและพัฒนาคุณภาพ กล่าวว่า อาการปัจจุบัน หลังจากผ่าตัดผู้ป่วยได้พักฟื้นที่หอผู้ป่วยวิกฤตวิสัญญี เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดปัจจุบัน วันที่30พฤษภาคม2560ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ ผู้ป่วยสามารถหายใจได้เอง ไม่มีอาการเหนื่อย สัญญานชีพปกติ ความดันโลหิต126/86 มิลิเมตรปรอท และได้ออกจากหอผู้ป่วยวิกฤตวิสัญญีไปพักที่หอผู้ป่วยหลังคลอดแล้ว ทั้งนี้ในระหว่างการรักษาแพทย์ได้ชี้แจงกับ มารดา สามี และยาย มาโดยตลอด
ส่วน รศ.นพ.จิตตินัดด์ หะวานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การวิเคราะห์หาสาเหตุ แพทย์ให้การวินิจฉัยโรคเป็น ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (Abruptio placentae) สาเหตุอาจเกิดจากภาวะครรภ์เป็นพิษ (Pre-eclampsia) ด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ขอยืนยันว่าโรงพยาบาลได้ดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานการรักษาพยาบาลทั้งในส่วนของการคลอดและการเกิดภาวะแทรกซ้อนทีมแพทย์ และพยาบาล ได้ใช้ทุกกระบวนการของการรักษาพยาบาล ในการช่วยเหลือชีวิตของผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติขอแสดงความเสียใจอย่างเป็นทางการมา ณ โอกาสนี้ด้วย