บ้านข้างคอนโดฯซวย หนุ่มสวีเดนดิ่งลงมาตายกลางดึก

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ร.ต.อ.สมพร ชู่นุ่น รอง.สว. (สอบสวน) สน.พญาไท ได้รับแจ้งเหตุชาวต่างชาติตกจากที่สูง ภายในซอยพหลโยธิน 3 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสน เขตพญาไท กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมมูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์นิติเวชฯ รพ.รามาฯ

ที่เกิดเหตุอยู่บ้านเลขที่ 17 มีรั้วรอบขอบชิด ภายในห้องนอนชั้น 2 พบศพชายชาวต่างชาติ ประมาณอายุ 30 ปี ไม่มีเอกสารติดตัว สภาพนอนหงายเท้าก่ายโชฟาทั้งสองข้าง บริเวณใบหน้าโชกไปด้วยเลือดไหลเป็นทางยาว สวมกางเกงขาสั้น สีขาว-แดง เพียงอย่างเดียว ใกล้กันพบเศษหลังคาบ้านกระจัดกระจายส่วนด้านบนพบฝ้าเพดานทะลุ จากการตรวจสอบพบว่ามีอาคารคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น อยู่ใกล้บ้านหลังดังกล่าว

จากการตรวจสอบ รปภ. ซิลค์ สนามเป้า คอนโดมิเนียม เปิดเผยว่า ตนพบเห็นผู้ตายเป็นประจำมักปั่นจักรยานเสือหมอบ ชอบกล่าวทักทายเป็นภาษาไทย เป็นคนอัธยาศัยดี พักอยู่ชั้นที่ 7 อยู่เพียงคนเดียว โดยตนจะเรียกว่าไมเคิล

จากการสอบถามเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนพักผ่อนอยู่อีกที่หนึ่ง มารดาได้โทรศัพท์มาบอกว่าพบศพอยู่ภายในห้องนอนของตน โดยกลางดึกได้ยินเสียงดังโครมนึกว่ามีรถชนกันบนถนน จากนั้นมารดาได้ลงมาเข้าห้องน้ำชั้น 1 พบเลือดไหลหยดลงมาจากชั้น 2 จึงเดินขึ้นไปสำรวจจึงพบศบดังกล่าว ตนจึงรีบเดินทางมาทันที

ร.ต.อ.สมพร กล่าวว่า เบื้องต้นประสานฝ่ายสืบสวนเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาว่าผู้เสียชีวิตพักอยู่ห้องไหน กระโดดลงมาจากชั้นใด ก่อนส่งชันสูตรพลิกศพและประสานเจ้าหน้าที่ สตม. เพื่อติดตามญาติมารับศพต่อไป

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในซอย พหลโยธิน3 พบเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น แบ่งให้เช่าพักอาศัย จากการบอกเล่าของช่างประจำคอนโด ผู้เสียชีวิตได้กระโดดลงมาจากห้องพักบริเวณระเบียงชั้น 8 ไปตกลงไปบ้านพักอาศัยด้านข้างของคอนโด ในห้องพบเพียงจดหมายลาตายและยารักษาโรค อาจเกิดจากเรื่องคิดมากในอาการเจ็บป่วย ทราบชื่อเพียงแค่ว่า คือ นายอเล็กซิส อายุประมาณ 30 ปี ชาวสวีเดน คาดว่าจะเป็นนักศึกษา แลกเปลี่ยนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งปกติจะมีแฟนสาวชาวไทยจะมาหาบ้างแต่จะนานๆครั้ง

ส่วนเจ้าของบ้านที่ชาวต่างชาติตกลงมานั้น เป็นบ้านเดียว 2 ชั้น อยู่ติดกับคอนโดดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายอุทัย (สงวนนามสกุล) อายุ 82 ปี เป็นอดีตข้าราชการกระทรวงการคลัง ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ตอนเกิดเหตุตนเองนอนอยู่ข้างบน คนพบศพ คือภรรยาของตนเอง โดยตนเองนั้นได้ยินเสียงดัง ลักษณะคล้ายรถชนกำแพง จึงไม่ได้สนใจอะไร และได้นอนหลับ พอช่วงเวลา 03.00 น. ภรรยาตื่นเข้าห้องน้ำได้เห็นเลือดบนพื้นจึงเดินไปดู ก็พบคนเสียชีวิต จึงได้แจ้งเหตุไปที่ 191 จากนั้นอาสาสมัครร่วมกตัญญูจึงมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา

นายอุทัย กล่าวอีกว่า ตอนพบผู้เสียชีวิต สภาพผู้เสียชีวิตทะลุหลังคาร่วงลงมานอนแผ่ขาพาดบนโซฟา สภาพศพก็ไม่ได้เละเทะ อะไร มีเพียงหัวแตก พอดูออกว่าเป็นชาวต่างชาติ ยังดีที่ห้องดังกล่าวไม่มีผู้อาศัย และห้องติดกันลูกชายไปพักรักษาที่โรงพยาบาลพอดี ขณะพบศพก็ไม่ได้ตกใจกลัวอะไร เพียงแค่ตื่นเต้น เพราะอยู่ดีๆก็มีคนอื่นที่ไม่รู้จักมาเสียชีวิตภายในบ้าน ส่วนทางด้านเจ้าของห้อง ที่ให้ชาวต่างชาติได้เช่าอาศัยอยู่ได้เข้ามาติดต่อขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหลังคาทั้งหมด สำหรับในจุดที่เกิดเหตุพอทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยก็ดูไม่น่ากลัว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าหลังจากซ่อมแซมหลังคาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็คงต้องทำบุญ บ้านตามปกติต่อไป