


แท็กซี่เลือดร้อนชักมีดดาบขู่ "ป๋าแหง็ม" พิธีกรและนักข่าวทีวี.ชื่อดัง เดินทางเข้าพบตำรวจแล้ว สารภาพขับรถปาดหน้ากับคู่กรณีจริง กระทั่งเกิดความโมโห จึงคว้ามีดออกจากรถไปข่มขู่
จากกรณีนายศักดินา รักษ์อุดมการณ์ หรือป๋าแหง็ม อายุ 54 ปี ผู้สื่อข่าวไบรท์ทีวี เจ้าของวลี “ครับเจ้านาย” ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วงศธร แต่งตั้ง รองสารวัตร( สอบสวน ) สน.พหลโยธิน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนขับรถแท็กซี่ สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทส 3806 กทม.ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายบุญสนอง บรรยงค์ อายุ 40 ปี ชาวขอนแก่น หลังถูกคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวขับรถปาดหน้า อีกทั้งยังถือมีดดาบเดินลงมาจะทำร้าย เหตุเกิดบริเวณด้านหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ถนนรัชดาภิเษก ด้านขาออก เมื่อเวลา 06.10 น. วันที่ 2 ก.ย.60 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 6 ก.ย.60 นายบุญสนอง บรรยงค์ อายุ 40 ปี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ยรรยงค์ สันติปรีชาวัฒน์ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.คมสันต์ บดิดาญจน์ รองผกก.(สส.) พ.ต.ต.เอกราช โอมาก สว.สส. เพื่อแสดงความบริสุทธิใจและรับทราบข้อกล่าวหา
โดยนายบุญสนอง ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุตามภาพที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวจริง ส่วนสาเหตุเกิดมาจากอารมณ์โมโหเพียงชั่ววูบเท่านั้น ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุตนกำลังขับรถไปส่งผู้โดยสาร แต่เมื่อขับรถมาถึงสี่แยกรัชโยธิน ได้มีการขับรถปาดหน้ากันไปมากับนายศักดินา รักษ์อุดมการณ์ อายุ 54 ปี หรือป๋าแหง็ม คู่กรณี จนกระทั่งรถวิ่งไปถึงบริเวณด้านหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ตนจึงได้ถือมีดลงไปข่มขู่ เพราะขณะนั้นเกิดความโมโห แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายอะไร หลังเกิดเหตุจึงได้ขับรถไปส่งผู้โดยสารตามปกติ และเมื่อหมดเวลาเช่ารถ หรือหมดกะ จึงได้ขับรถไปส่งคืนอู่รถ และได้เดินทางกลับไปที่ห้องพัก ย่านถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. พร้อมกับหยุดไม่ได้ขับรถอีก เพราะเกิดความเครียดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยที่ไม่ทราบว่าคู่กรณีจะมาแจ้งความ เพราะเป็นคนไม่ชอบดูข่าวสารตามสื่อต่างๆ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์เข้าไปพูดคุย และเกลี่ยกล่อมให้มาพบ ดังนั้น จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.ยรรยง กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัตินายบุญสนอง พบว่าเมื่อปี2557 เคยต้องโทษคดีเสพยาเสพติดในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน และปี 2558 ยังพบว่าถูกดำเนินคดีครอบครองยาเสพติด ในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่หลุดพ้นคดีทั้งหมดแล้ว ซึ่งวันนี้นายบุญสนอง ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จากนี้ก็จะนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นอาจจะแจ้ง 2 ข้อหา 1.พกพาอาวุธมีดไปในเมืองและทางสาธารณะ ซึ่งเป็นลหุโทษปรับ 100 บาท และ 2.ผู้ใดทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการขู่เข็น มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป