คืบหน้าอาคารแบดมินตันถล่ม วิศวกรรมสถานฯ แนะรื้อถอนอาคาร

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา วันนี้ 13 ก.ย.60 พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี นายยุทธพล องอาจอิทธิชัย นายอำเภอเมืองนนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนทบุรี วิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากกรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจสอบอาคารสนามแบดมินตัน NP เรวดี เลขที่124/469 ซ.เรวดี 55 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี หลังเมื่อวานนี้ (12 ก.ย.60) มีฝนตกหนักและมีลมกรรโชกอย่างรุนแรงจนเกิดการทรุดตัวพังถล่มลงมาทับบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ข้างเคียงจนได้รับความเสียหายจำนวน 5 หลัง รวมถึงรถยนต์ที่จอดอยู่ใต้อาคารดังกล่าว และที่จอดอยู่ริมถนนได้รับความเสียหายเกือบ 30 คัน

โดยทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนทบุรีได้มีการนำป้ายมาติดแจ้งประกาศเตือนเป็นเขตห้ามเข้าพร้อมตั้งเต็นท์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการส่งพนักงานสอบสวนเข้าไปรับแจ้งความในจุดเกิดเหตุไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเข้ามาแจ้งความที่โรงพัก กระทั่งเวลา 12.00 น. ดร.ธเนศ วีระศิริและนายเอนก ศิริพาณิชการ เจ้าหน้าที่วิศวะกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบอาคารจุดเกิดเหตุโดยใช้เวลานานกว่า 1 ชม.ก่อนจะอนุญาตให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการเคลื่อนย้ายรถที่ได้รับความเสียหายเกือบ 30 คัน ที่ติดอยู่ใต้อาคารให้เคลื่อนย้ายออกไปได้ เนื่องจากเกรงว่าถ้าหากมีฝนตกลงมาอีกจะทำให้โครงสร้างของอาคารที่ได้รับความเสียหายอยู่แล้วเกิดการทรุดตัวพังลงมาอีกได้ ซึ่งในส่วนการตรวจสอบในวันนี้เป็นการเข้ามาตรวจสอบพินิจด้วยสายตาเท่านั้นว่าตัวโครงสร้างของอาคารยังอยู่ในลักษณะปลอดภัยดีหรือไม่ โดยจากการประเมินแล้วพบว่าตัวอาคารร่วมถึงคานรองรับน้ำหนักมีรอยแตกร้าวหลายจุดควรจะต้องทำการรื้อถอน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางเจ้าของอาคารว่าจะทำตามหรือไม่ เพราะทางเราไม่มีอำนาจในการสั่งการ

ร.ต.อ.ศุภลักษณ์ พรมวงษ์ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองนนทบุรี ได้ทำการสอบปากคำนายสุวัตถิ์ เนียมเปรม อายุ 58 ปี เจ้าของอาคาร ให้การว่าขณะเกิดเหตุยังไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถที่ได้รับความเสียหายเกือบ 30 คันนั้นเป็นรถของลูกค้าที่มาเช่าที่จอดรถเป็นรายเดือน ซึ่งตนได้มีการทำประกันภัยตัวอาคารเอาไว้แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัทประกันเข้ามาตรวจสอบความเสียหายเสียก่อนเพื่อจะชดเชยซ่อมแซมให้กับเจ้าของรถที่ได้รับความเสียหายต่อไป พร้อมทั้งได้นำแบบแปลนโครงสร้างอาคารมามอบให้ไว้ตรวจสอบจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายฉลองชัย เรืองศิริ อายุ 67 ปี หนึ่งในเจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายได้เดินทางมาดูรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี ของตนที่นำมาเช่าจอดไว้เดือนละ1,200 บาท และได้รับความเสียหายบริเวณห้องเครื่องรถยนต์ที่ถูกเสาอาคารถล่มลงมาทับจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถออกไปได้ กล่าวว่าอยากให้ทางเจ้าของอาคารเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาในเรื่องการซ่อมแซมรถที่พังเนื่องจากรถตนเองทำประกันภัยรถประเภทที่ 3 ไม่คุ้มครองในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางเจ้าของแต่อย่างใด