จับหนุ่มเกาหลี! แช็ตหลอกสาวมั่วยา-มั่วเซ็กซ์ถ่ายคลิป

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.60 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ มอบหมายให้ พ.ต.ท.กัมพล วงษ์สงวน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมบัติ แสดรัมย์ รอง สว.ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.บุรีรัมย์ และตำรวจท่องเที่ยว นำกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจค้นห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเข้ามาพัก และมั่วสุมเสพยาเสพติด

เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบ เมื่อถึงห้องพักพบ นายจุง ฮี จิน อายุ 28 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ อยู่ภายในห้องพักดังกล่าว แต่เมื่อนายจุง ฮี จิน พบเห็นเจ้าหน้าที่ได้แสดงอาการมีพิรุธ ลักษณะลุกลี้ลุกลน คล้ายคนเสพยาแ ละคาดว่าน่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายไว้ในความครอบครอง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีพนักงานของโรงแรมเป็นล่ามแปลภาษา ก่อนทำการตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ชนิดผงสีขาว น้ำหนักประมาณ 0.5 กรัม (รวมน้ำหนักถุง) บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง พบวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง , กัญชาอัดแท่งห่อด้วยพลาสติกใส น้ำหนักรวม 3.6 กรัม (รวมน้ำหนักพลาสติกห่อหุ้ม) จำนวน 1 ก้อน พบวางอยู่บนที่นอน , อุปกรณ์เสพยาไอซ์ จำนวน 1 ชุด พบวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง และเข็มฉีดยา ขนาด 11 ยูนิต จำนวน 3 ชุด พบวางอยู่บนภายในห้องพัก พร้อมของกลางอีกหลายรายการ

โดย นายจุง ฮี จิน อ้างว่า ได้ซื้อยาเสพติดมาจากหญิง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง อยู่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำมาเสพ และรับว่าของกลางทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ที่ตนเองใช้เสพยาเสพติดจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหนังสือเดินทางเกาหลีใต้ของ นายจุง ฮี จิน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย จำนวน 90 วัน ถึงวันที่ 10 ต.ค.2560 นั้น เป็นอันสิ้นสุดการอนุญาตถึงปัจจุบัน จำนวน 65 วัน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม พร้อมทั้งควบคุมตัว นายจุง ฮี จิน พร้อมของกลางทั้งหมดมาที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และขอตรวจปัสสาวะเบื้องต้นเพื่อหาสารเสพติดในปัสสาวะของนายจุง ฮี จิน ผลปรากฏว่ามีผลเป็นบวก ซึ่งยอมรับว่าได้เสพยาไอซ์มาก่อนหน้านี้จริง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ทำการบันทึกจับกุม ประวัติบุคคล พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายจุง ฮี จิน กล่าวผ่านล่ามแปลภาษาว่า มีแฟนเป็นหญิงสาวชาวไทย และเข้ามาเมืองไทยมากกว่า 1 ปี ยอมรับมีการเสพยาเสพติดจริง ส่วนหญิงสาวที่พบในห้องพักด้วยนั้น ได้พูดคุยกันผ่านโลกออนไลน์ก่อนนัดไปหลับนอน แต่หญิงสาวที่มาด้วยไม่ได้ร่วมเสพยาด้วยแต่อย่างใด ซึ่งจากการสอบประวัติยังพบว่าที่ผ่านมาได้มีพฤติกรรมชอบติดต่อหญิงสาวผ่านเฟสบุ๊ก อ้างว่าตัวเองมีฐานะดีหากมาหลับนอนด้วยจะให้เงิน แต่เมื่อมีหญิงสาวหลงเชื่อมาหลับนอนด้วยกลับไม่ได้เงินตามที่กล่าวอ้าง ทั้งยังมีการถ่ายคลิปขณะหลับนอนด้วย นอกจากนั้นยังสืบทราบว่ามีหญิงบางคนถูกหนุ่มเกาหลีคนดังกล่าวหลอกหลับนอนแล้วยังรูดทรัพย์ด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”