แม่ทัพภาค 2 รุดดูจุดดูดทรายหลังถูกปิด 51 แห่ง กระทบงานก่อสร้างทุกภาคส่วน รวมถึงชาวบ้านคัดแยกหินสีด้วย
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 ม.ค.พลโทธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการส่งเสริมศูนย์ศิลปาชีพตามแนวพระราชดำริ ที่บ้านโชคอำนวย ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ หลังจากได้พบปะกับพี่น้องประชาชนสมาชิกในศูนย์ฯแล้ว ได้เดินทางไปยังท่าทราย ช.รุ่งเรื่อง บ้านท่าสีไค ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง 1 ในจำนวน 48 แห่งผู้ประกอบการท่าดูดหิน-ทรายที่ถูกปิดมาได้ 1 เดือนแล้ว ซึ่งในจังหวัดบึงกาฬมีผู้ประกอบการขออนุญาตทำท่าดูดหินดูดทรายอยู่ทั้งหมด 51 แห่ง บางรายได้ใบอนุญาตมาไม่ครบถ้วนก็ลงมือดำเนินการเลย หรือบางรายมีใบอนุญาตแล้วไม่ยื่นขอต่ออายุหรือถูกร้องเรียนเรื่องอื่นๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องบังคับใช้ตามกฎหมายสั่งปิดท่าทรายชั่วคราวจนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับ
พลโท ธรากร แม่ทัพภาค 2 เปิดเผยว่า โอกาสที่ท่าทรายที่ถูกปิดจะมาเปิดดำเนินการได้อีกก็มี ถ้าหากว่าทางคณะอนุกรรมการประจำจังหวัดได้ตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตหรือการต่อใบอนุญาตให้ถูกต้อง ต้องยึดกรอบของกฎหมายเพราะเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน อีกอย่างหินทรายเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของโครงสร้างพื้นฐานหรือประกอบอุตสาหกรรมต่าง ๆ รัฐจะต้องส่งเสริมให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกรอบของกฎหมาย ไม่งั้นเจ้าหน้าที่รัฐจะมีความผิดเสียเอง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการโดยชอบธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนและส่วนรวม
ด้านนางสุภา หรือหมู โหว่ววงษ์ อายุ 47 ปี บ้านโนนสมบูรณ์ ต.ดงบัง กล่าวว่าพวกตนเดือดร้อนจากการปิดท่าทรายมาก เนื่องจากมีอาชีพคัดหินสีขายจะมีรายได้วันละ 300-500 บาทต่อคน ค่าใช้จ่ายในครอบครัวค่าลูกไปโรงเรียนก็อยู่ในนี้ พวกตนไม่มีสวนยางไม่มีนาข้าว มีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 200 คน คัดหินขายตามสต๊อกทรายต่างๆ เมื่อท่าทรายถูกปิดต้องตกงานเงินใช้จ่ายก็ไม่มี จึงอยากขอร้องทางแม่ทัพได้โปรดช่วยให้เปิดท่าทรายไวๆ ด้วย
ส่วนนายปรีชา ศิริผลา ผู้ประกอบท่าทรายคนหนึ่งกล่าวว่า หลังท่าทรายถูกปิดผู้ประกอบการและผู้รับเหมาต้องไปซื้อทรายมาจากจังหวัดหนองคายและนครพนมที่อยู่ใกล้เคียงมาใช้ ต้องเสียเวลาและได้มามีไม่เพียงพอต่อการใช้ทรายรองพื้นทำถนน ทำพนังกั้นน้ำและผสมปูนซีแพ็ค จึงกระทบทั้งผู้รับเหมาและประชาชนที่กำลังสร้างบ้าน เป็นอย่างมากหากเปิดทำการดูทรายล่าช้า การดูดหินทรายมาเพื่อสต๊อกไว้ภายในอีก 3 เดือนข้างหน้า ก.พ.-พ.ค.61 ก็จะไม่ทันพอใช้ทั้งในปีนี้และปีหน้า คาดว่าจะกระทบกับงานทำพนังกั้นน้ำ ทำถนน และงานก่อสร้างอื่นทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นอาจเป็นผลเสียต่อการพัฒนาจังหวัดในลำดับต่อไป