(สกู๊ป) รวมแข้งดังก่อปัญหาเพื่อหวังย้ายทีม

(สกู๊ป) รวมแข้งดังก่อปัญหาเพื่อหวังย้ายทีม

ขณะนี้ประเด็นการไม่กลับมารายงานตัวของ ริยาด มาห์เรซ ปีกตัวเก่ง เลสเตอร์ ซิตี กำลังเป็นประเด็นที่ได้รับการพูดถึงไปทั่วโลก หลังเจ้าตัวไม่ยอมกลับมารายงานตัวกับทีม

     โดยสาเหตุสำคัญที่แนวรุกทีมชาติแอลจีเรีย หายไปตัวไปดื้อๆ และพลาดลงสนามช่วยทีมมาแล้ว 3 เกมประกอบด้วยเจอกับ เอฟเวอร์ตัน, สวอนซี ซิตี และแมนเชสเตอร์ ซิตี คือการที่เจ้าตัวไม่ได้ย้ายไปอยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” ในช่วงวันสุดท้ายของตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา เหตุทั้ง 2 สโมสรไม่สามารถตกลงเรื่องค่าตัวกันได้

     ส่งผลให้ในขณะนี้เจ้าตัวโดนทาง “จิ้งจอกสยาม” ปรับเงินค่าเหนื่อยเป็นจำนวนมากเหตุทำผิดกฏของสโมสรอย่างรุนแรง ขณะเดียวกัน สมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ได้ออกมาเตือน มาห์เรซ ว่า เขาอาจถูกระงับรายได้ 100,000 ปอนด์ ราว (4.3 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์จาก เลสเตอร์ ซิตี หากยังไม่ยอมกลับมาลงซ้อมร่วมกับทีม นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ไม่ต้องการจะได้ตัวอดีตแข้งของทีม เลอ อาร์ฟ รายนี้ไปร่วมทีมแล้ว เนื่องจากไม่พอใจกับพฤติกรรมของ มาห์เรซ ที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ

      แต่สุดท้ายแล้วแข้งวัย 26 ปี ก็ได้กลับมาซ้อมกับทีมเป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ (9 ก.พ.) ซึ่งทาง โคล้ด ปูแอล ผู้จัดการทีม รวมถึงเพื่อนร่วมทีมก็ออกมาให้กำลังใจ และไม่ถือโทษโกรธแข้งรายนี้แต่อย่างใด ถึงกระนั้นเชื่อว่าเจ้าตัวจะย้ายออกจากถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดียมอย่างแน่นอนหลังจบซีซั่นนี้

      อย่างไรก็ตาม มาห์เรซ ไม่ใช่นักเตะรายแรกที่มีพฤติกรรมดื้อแพ่งกับสโมสรเช่นนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังมีนักเตะอีกหลายรายที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมเพื่อความต้องการของตนเองด้วยเหตุผลหลายประการ

ฟิลิปเป คูตินโญ
     เป็นที่ทราบกันดีว่าบรรดานักเตะจากทวีปอเมริกาใต้เกือบทุกคนมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะย้ายไปอยู่กับ 2 ทีมใหญ่ในศึกลาลีกา สเปน คือ บาร์เซโลนา และเรอัล มาดริด เนื่องจากมีแข้งดังระดับโลกอยู่ใน 2 ทีมดังกล่าวอย่างมากมาย
     เช่นเดียวกับ ฟิลิปเป คูตินโญ กองกลางดีกรีทีมชาติบราซิลซึ่งมีความฝันในเรื่องนี้เช่นกัน และเจ้าตัวก็ได้มีโอกาสทำตามความตั้งใจของตนเองหลัง “เจ้าบุญทุ่ม” ได้เลือกให้เจ้าตัวเป็นตัวแทนในเกมรุกของ เนยมาร์ กองหน้าเพื่อนร่วมชาติที่ย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตัวสถิติโลก 198 ล้านปอนด์ (ราว 8.6 พันล้านบาท)
     ถึงกระนั้นแม้ บาร์ซา จะยื่นข้อเสนอให้ “หงส์แดง” ถึง 3 ครั้งในการดึงตัวดาวเตะวัย 25 ปีไปร่วมทีม แต่ถูกทางบอร์ดบริหารบอกปัดไปทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้ คูตินโญ ที่ปกติไม่มีเรื่องนอกสนามในด้านลบยื่นขอขึ้นบัญชีย้ายทีมเพื่อจะไปอยู่ในถิ่น คัมป์ นู ให้ได้
     นอกจากนั้นยังมีรายงานว่าอดีตนักเตะ อินเตอร์ มิลาน แจ้งกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีมว่า จะไม่ขอลงเล่นในทีมอีกต่อไป ซึ่งในช่วงเริ่มต้นของซีซั่นก็เป็นเช่นนั้นจริงๆเมื่อ คูตินโญ ไม่ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามีอาการเจ็บหลัง แต่กลับไปเล่นให้กับทีมชาติบราซิลได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆในเดือนเดียวกัน จนถูกแฟนๆ “เดอะ ค็อป” วิจารณ์ในเรื่องนี้เป็นวงกว้าง
     อย่างไรก็ตาม คูตินโญ กลับมาลงสนามให้ทีมอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ก.ย. แต่ก็ยังมีกระแสข่าวว่าเขายังต้องการย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลนา ซึ่งสุดท้ายในช่วงต้นเดือน ม.ค. คูตินโญ ก็ได้เซ็นสัญญากับ บาร์เซโลนา สมใจแบบชนิดแฟนๆหลายคนตั้งตัวไม่ทัน ด้วยค่าตัว 142 ล้านปอนด์ (ราว 6.2 พันล้านบาท) และกลายเป็นเรื่องดรามาระหว่างเจ้าตัวกับแฟนๆอยู่ช่วงระยะหนึ่ง

ดีเอโก คอสตา
     สำหรับ คอสตา ถือเป็นหนึ่งในแข้งจอมแสบของวงการลูกหนัง เนื่องจากเขามีสไตล์การเล่นที่ดุดัน และมักจะมีลูกตุกติกนอกเกมซึ่งส่งผลให้เป็นเป้าโจมตีของนักเตะคู่แข่ง และแฟนบอลของทีมตรงข้ามอยู่เสมอตั้งแต่อยู่กับ แอตเลติโก มาดริด จนถึง เชลซี
    แม้กับทีม “สิงห์บลูส์” เขาจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำไป 20 ประตูพร้อมช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2016-2017 มาครองได้สำเร็จ
     อย่างไรก็ตามด้วยพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีนัก และความไม่ค่อยอยู่ในระเบียบวินัยส่งผลให้ อันโตนิโอ คอนเต เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดซีซั่น 2017-2018 ว่าหัวหอกทีมชาติสเปนจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมฤดูกาลใหม่อย่างแน่นอน
     ส่งผลให้แข้งวัย 28 ปีไม่พอใจในเรื่องนี้อย่างมาก จนไม่ยอมเข้าร่วมการฝึกซ้อม รวมถึงการเตะปรีซีซั่นกับทีม “สิงห์บลูส์” โดยกลับไปอยู่ที่ประเทศบราซิลบ้านเกิดแทนจนถูกปรับเงินค่าเหนื่อยไปหลายแสนปอนด์ พร้อมประชดประชัน คอนเต ผ่านสื่อในเรื่องนี้หลายต่อหลายครั้ง
     จนสุดท้ายแล้ว “ตราหมี” ได้ยื่นข้อเสนอจำนวน 53 ล้านปอนด์ (ราว 2.3 พันล้านบาท) ในการคว้าตัว คอสตา กลับไปอยู่ในถิ่น ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน อีกครั้ง พร้อมเสียงวิจารณ์ว่าเจ้าตัวปฏิบัติตัวไม่สมกับเป็นมืออาชีพ และใช้วิธีการตอบโต้สโมสรที่ไม่มีเหตุผลเกินไป

คาร์ลอส เตเวซ

    อีกหนึ่งแบดบอยของวงการ ที่เรื่องฝีเท้านั้นได้รับการยอมรับว่าคือ 1 ในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก แต่ในเรื่องพฤติกรรมนั้นถือว่าไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีนักสำหรับดาวเตะรุ่นหลังอย่างแน่นอน
     โดย เตเวซ เริ่มออกลายของการเป็นแข้งจอมดื้อในเกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกกับ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อปี 2011 ซึ่งหัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินา ไม่ยอมลงวอร์มตามคำสั่งของ โแบร์โต มันชินี กุนซือของ “เรือใบสีฟ้า” ในขณะนั้น จนเกิดมีปากเสียงกัน และทำให้เขาถูกดร็อปจากทีม รวมถึงถูกปรับเงินเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสรจากเหตุการณ์นี้ จนเจ้าตัวไม่พอใจหนีกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดถึง 3 เดือน ก่อนจะกลับมาช่วยทีมในช่วงท้ายฤดูกาล
      กระทั่งเขาย้ายไปอยู่กับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ทีมดังในในชีส ซูเปอร์ ลีก เมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2016 ด้วยค่าเหนื่อยสถิติโลกถึง 634,000 ปอนด์ (ราว 28.9 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังสร้างข่าวฉาวไม่เลิก ด้วยการไม่พยายามเล่นอย่างเต็มที่เหมือนตอนค้าแข้งในยุโรป รวมถึงมีน้ำหนักตัวเยอะเกินจนถูกดร็อปออกจากทีม เป็นต้น
     จนสุดท้ายเขาต้องยกเลิกสัญญากับทีมในลีกแดนมังกร แล้วกลับไปอยู่ โบคา จูเนียร์ส เป็นรอบที่ 3 ซึ่งก่อนย้ายออกเจ้าตัวยังให้สัมภาษณ์แบบสุดแสบถึงการไปค้าแข้งในจีนว่า "ผมไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาอะไร เพราะ ผมไปพักร้อนมาเป็นเวลา 7 เดือน ตอนที่ผมเดินทางไปถึงประเทศจีน ผมรู้สึกอยากกลับมาอยู่กับ โบคา”

มาริโอ บาโลเตลลี
    ดาวยิงจอมเกรียนที่เคยสร้างความร้าวฉานกับทั้งสโมสร, ผู้จัดการทีม, เพื่อนร่วมทีม และคู่แข่งมาแล้วแบบนับไม่ถ้วนด้วยความดื้อ รวมถึงความเป็นศิลปินที่หลายคนมองว่ามีอยู่ในตัวเขามาจนเกินไป
    สำหรับแข้งวัย 27 ปีรายนี้สร้างวีรกรรมที่น่าปวดหัวไว้มากมาย เช่น ขณะที่เขาค้าแข้งอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน เขาได้ให้สัมภาษณ์กับแฟนบอลว่าทีมที่เขาเชียร์คือ เอซี มิลาน คู่ปรับร่วมเมืองของ “งูใหญ่” ซึ่งจากเรื่องดังกล่าวก็ส่งผลให้เขามีปัญหากับบอร์ดบริหารของทีมอยู่บ่อยครั้งก่อนที่จะขายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ในเวลาต่อมา
     เช่นเดียวกับตอนที่อยู่กับทีม “เรือใบสีฟ้า” เขาก็มักจะมีปัญหาทั้งเรื่องใน และนอกสนามทั้งการทะเลาะกับ โรแบร์โต มันชินี เจ้านายของตัวเองในระหว่างฝึกซ้อม โดยเขาได้เข้าสกัด สกอตต์ ซินแคลร์ ปีกเพื่อนร่วมทีมหนักเกินความจำเป็น รวมถึงการไม่ค่อยทำตามแท็คติก และเล่นช็อตยากจนทีมเสียเปรียบอยู่เสมอ เหตุอยากกลับไปค้าแข้งในอิตาลีบ้านเกิดมากกว่า
     นอกจากนั้นตอนที่เขาย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ศูนย์หน้าชาวอิตาเลียนยังเคยปฏิเสธลงซ้อมเนื่องจากอากาศหนาวเกินไปอีกด้วย จนสุดท้ายถูกยกเลิกสัญญากับทีมในที่สุด

     และทั้งหมดนี้คือบรรดานักเตะที่มีพฤติกรรมต่อต้านสโมสร แม้พวกเขาจะได้สิ่งที่ตนเองต้องการในสุดท้ายแต่สิ่งที่ทำนั้นไม่ใช่เรื่องที่นักเตะมืออาชีพควรทำ และเชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ก็จะมองภาพลักษณ์ของพวกเขาในแง่ลบ แม้จะมีผลงานในสนามจะดีแค่ไหนก็ตาม