เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายลงพื้นที่หาดบางเบิด-ถ้ำธง ตรวจสอบท่อที่ถูกคลื่นซัดเกยหาด พบเป็นท่อน้ำมัน ด้านกลุ่มบริษัทขุดเจาะน้ำมันยืนยันว่าท่อของบริษัทอยู่ครบไม่ได้หลุดออก
ความคืบหน้ากรณีชาวบ้านและผู้ประกอบการท่องเที่ยว หาดบางเบิด-ถ้ำธง หมู่ 5 ต.ปากคลอง อ.ประทิว จ.ชุมพร พบท่อจำนวน 14 ท่อนถูกคลื่นซัดมาเกยหาดบางเบิด-ถ้ำธงและมีการเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และหาทางเคลื่อนย้ายออกไปก่อนที่ท่อทั้งหมดจะถูกคลื่นซัดกลับลงทะเลและเป็นอันตรายต่อชาวประมงซึ่งเรื่องนี้ นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) หลังจากรับแจ้งแล้วในเบื้องต้นมีความเป็นห่วงตามที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวและได้สั่งการเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5ลงพื้นที่ตรวจสอบบันตทึกภาพและรายงานผลให้ทราบ ซึ่งเบื้องต้นได้ลงพื้นที่ร่วมกับกลุ่มสมุทรศาสตร์ เข้าสำรวจการเกยหาดของท่อส่งน้ำมันบริเวณหาดบางเบิด อ.ปะทิว จ.ชุมพรจากการสำรวจพบเป็นท่อยางเป็นท่อส่งน้ำมันยาวประมาณ170เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของท่อกว้างประมาณ80เซนติเมตร จึงได้สำรวจคราบน้ำมันบริเวณใกล้เคียง ผลการสำรวจไม่พบคราบน้ำมันทั้งในน้ำทะเลและบนหาดทรายกลุ่มสมุทรศาสตร์จึงได้ตรวจวัดคุณภาพน้ำทะเลเบื้องต้น พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเล ดังนี้ความเค็ม30 ppt-อุณหภูมิ30.3องศาเซลเซียส-pH 8.18-DO 5.20 mg/l
จากนั้นเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างน้ำทะเลบริเวณหาดบางเบิด เพื่อตรวจวัดปริมาณปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนในน้ำทะเล ในห้องปฏิบัติการต่อไปและเดินทางไปพบนายก อบต ปากคลอง เพื่อสอบถามถึงแนวทางในการจัดการท่อส่งน้ำมันดังกล่าว ซึงทางนายก อบต.ปากคลอง ได้แจ้งให้ทราบว่าได้ลงพื้นที่ร่วมกับทางฝ่ายปกครองอำเภอประทิว ได้ตรวจสอบร่วมกันไปแล้วและทางสำนักงานเจ้าท่าสาขาชุมพร อยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างไรก็ตามาหากชาวประมงและผู้ประกอบการท่องบเที่ยวในชายฝั่งทะเลประจวบฯ และชุมพร มีข้อมูลเกี่ยวกลับเส้นทางของท่อน้ำมันดังกล่าวนั้นก็สามารถแจ้งเพิ่มเติมได้เพราะเป็นประโยชน์
ด้านนายปณชัยหนูแท้ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าจังหวัดชุมพร กล่าวว่าได้รายงานให้ทางกรมเจ้าท่าทราบแล้วในเบื้องต้น เกี่ยวกับกรณีท่อที่ถูกคลื่นซัดมาอยู่บนชายหาดบางเบิด-ถ้ำธง ซึ่งเบื้องต้นทางกรมเจ้าท่า และกรมธุรกิจพลังงาน ได้ตรวจสอบกับบริษัทที่ขุดเจาะน้ำมันและเรือบรรทุกน้ำมันต่างๆของประเทศไทย ได้แจ้งผลมาว่าไม่มีท่อน้ำมันตามขนาดและลักษณะที่พบหลุดมาแต่อย่างใด และไม่น่าใช่ท่อของบริษัทไทยแต่อย่างใดซึ่งการตรวจสอบภายในท่อพบเพียงตะกอนแข็งภายในท่อซึ่งจะได้ส่งไปยังบกรมเจ้าท่าเบื้องต้นทางกรมเจ้าท่าเตรียมแผนเคลื่อนย้าย 2 วิธี ทั้งทางรถยนต์ และทางน้ำหาเรือเข้ามาได้ก็จะนำท่อทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่ท่าเรือบางสะพาน ก่อนซึ่งเบื้องต้นอยู่ระหว่างการดำเนินการและเลือกวิธีที่เหมาะสมในการดำเนินการ
นายทวีชัย โชคสมุทรผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์กล่าวว่าสำหรับกรณีท่อน้ำมันดังกล่าวนั้น ก่อนที่จะไปโผล่ที่หาดบางเบิด จ.ชุมพร นั้นทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่3 สาขาประจวบฯ ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือนยำเที่ยวให้บริการพาดำน้ำในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อยว่า ได้พบเห็นวัตถุดังกล่าวคือท่อลอยอยู่ในทะเลบริเวณพื้นทีอำเภอบางสะพานน้อยช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่มีคลื่นลมแรงจนกระทั่งมาทราบข่าวว่าวัตถุดังกล่าวที่มีการแจ้งเป็นท่อน้ำมันไปโผล่ที่หาดบางเบิดซึ่งในส่วนของการเคลื่อนย้ายท่อจะมาเก็บรักษาไว้ที่ท่าเรือบางสะพานของภาคเอกชน นั้นขณะนี้รอความชัดเจนว่าหากมีการตัดสินใจเคลื่อนย้ายมาทางทะเลนั้นก็จะได้ดำเนินการทำหนังสือไปยังท่าเรือบางสะพานต่อไป แต่อย่างไรก็ตามในพื้นที่ทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้นไม่มีการขุดเจาะน้ำมันแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคใต้อย่างไร
นายทองรัตน์ วรรนุช พลังงานจังหวัดชุมพร ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบท่อเช่นกันกล่าวว่าเบื้องต้น ยอมรับเป็นท่อขาดใหญ่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดประมาณ 20 นิ้วนั้น ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าในกิจการของการขนส่งน้ำมันจากโรงกลั่นที่ใช้ประมาณ 16 นิ้วเท่านั้น และท่อที่ใช้กับแท่นขุดเจาะน้ำมันก็จะเป็นท่อเหล็ก ซึ่งไม่น่าจะหลุดมาจากแท่นขุดเจาะน้ำมัน แต่หากเป็นเรือขนส่งน้ำมันต้องเป็นเรือขนาดใหญ่อย่างน้อยกว่าหมื่นตันขึ้นไปซึ่งก็ยังอยู่ในระหว่างตรวจสอบเพราะมีตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่ระบุอยู่ที่ข้างท่อซึ่งต้องตรวจสอบต่อไป และจะมีการประสานข้อมูลในหลายฝ่ายร่วมกันทั้งกรมเจ้าท่าและหน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไป
ขณะเดียวกันนายธนนท์ พรรพิภาส นายอำเภอประทิว ,นายบุญสิง จารึก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ปากคลอง อ.ประทิว จ.ชุมพร และ พ.ต.ท.อภิชาติ เรนชนะ รอง.ผกก.สภ.บ้านมาบอมฤต เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าเป็นท่อยางขนาดใหญ่ส่วนบริเวณปลายท่อมีน๊อตโผล่ออกมาจำนวน 22 ตัว มีท่อสัญลักษณ์รูปสมอเรือพร้อมภาษอังกฤษOIL &MARINEและMANULIบนพื้นสีขาว ส่วนด้านล่างมีอักษรภาษาอังกฤษGMPHOM 2009 ID 500MM RWP 15 BAR2016581 12/2016 SINGLE CARGASS
เบื้องต้นนายอำเภอประทิว สันนิฐานว่าท่อยางขนาดใหญ่ทั้งหมด ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาดบางเบิดอาจเป็นท่อสำหรับส่งน้ำมันกลางทะเลของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ที่ได้รับสัมปทานการขุดเจาะสำรวจหานำมันในทะเลอ่าวไทยภายลังการตรวจสอบเสร็จทาง พนักงานสอบสวน สภ.มาบอมฤต ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประกาศหาเจ้าของมาดำเนินการเคลื่อนย้ายท่อทั้งหมดออกจากหาดบางเบิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีท่อน้ำมันดังกล่าว หลายหน่วยงานยืนยันว่าไม่ใช่เป็นท่อของบริษัทที่ใช้ขุดเจาะน้ำมันในประเทศไทย เนื่องจากท่อในไทยมีขนาดความกว้างเพียง 16 นิ้ว แต่ท่อที่พบมีขนาดความกว้างถึง 36 นิ้วและในขณะเดียวกันท่อที่พบลอยอยู่ในทะเลก่อนหน้าที่จะไปพบโผล่ที่หาดบางเบิดนั้น ลอยอยู่ในทะเลประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา สิ่งสำคัญหากเป็นท่อน้ำมัน และหากท่อหลุดมาลักษณะเช่นนี้จะมั่นใจได้เพียงใดว่าจะไม่มีน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเล