ร.ร.เบญจมราชรังสฤษฏิ์ประกาศผลสอบเข้าม.4ผิด

         ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินการรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ประจำปีการศึกษา 2561 โดยชั้นม.1 ประกาศผลการสอบคัดเลือกนักเรียนทั่วไป เงื่อนไขพิเศษและรายงานตัว วันที่ 4 เม.ย. มอบตัววันที่ 7 เม.ย. ส่วนชั้นม.4 ประกาศผลฯและรายงานตัววันที่ 5 เม.ย.มอบตัววันที่ 8 เม.ย.นั้น 

     วานนี้ (6 เม.ย.) นายกิตติศักดิ์ ชาญอักษร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 6 (สมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจาก นายวีระชัย ตนานนท์ชัย ผู้อำนวยโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีความผิดพลาดในการประกาศผลสอบคัดเลือกระดับชั้น ม.4 โดยฝ่ายทะเบียนไม่ได้ใส่ชื่อนักเรียนประเภทโควตา ทำให้การประกาศรายชื่อไม่ครบ ซึ่งทางโรงเรียนจะประกาศรายชื่อใหม่ (รอบ 2) และรับเด็กเพิ่มเติม โดยจะรับนักเรียนที่ได้รับการประกาศชื่อก่อนหน้าเข้าเรียนเพื่อดูแลไม่ให้เสียสิทธิ คาดว่าจะมีประมาณ 100 คน ขอให้ผู้ปกครองและนักเรียนมามอบตัวในวันที่ 8 เม.ย.ตามที่กำหนด

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อ นายวีระชัย เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้

          ทั้งนี้ เว็บไซต์โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ได้เผยแพร่ประกาศโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ เรื่อง ผลการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนชั้นม.4 ลงวันที่ 5 เม.ย. 2561 ระบุว่า โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ เปิดรับนักเรียนสอบคัดเลือกชั้นม.4 ประจำปีการศึกษา 2561 ประเภทนักเรียนทั่วไปและนักเรียนโควตาสาขา จำนวน 14 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 40 คน รวม 560 คน โดยผลการสอบคัดเลือก ประเภทนักเรียนทั่วไป 183 คน โควตาสาขา 25 คน และตามเงื่อนไขพิเศษ (3) นักเรียนที่อยู่ในอุปการะคุณของผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง จำนวน 1 คน และรายชื่อสำรอง 50 คน กำหนดรายงานตัวและประชุมผู้ปกครองวันที่ 5 เม.ย. และมอบตัววันที่ 8 เม.ย.ถ้าไม่มาถือว่าสละสิทธิ์

       การประกาศผลทั้งม.1 และม.4 จะประกาศเรียงลำดับตามรหัสผู้สมัครสอบ ชื่อนักเรียน โรงเรียน และคะแนน T-score โดยแยกประเภทนักเรียนทั่วไป เงื่อนไขพิเศษ และรายชื่อสำรอง

        อย่างไรก็ตาม ในปีการศึกษา 2561เป็นปีแรกที่ สพฐ. กำหนดจำนวนผู้เรียนต่อห้องไม่เกิน 40 คนต่อห้อง เพื่อยกระดับคุณภาพ แต่ในระดับ ม.4 เนื่องจากต้องรับเด็กที่จบม.3 จากโรงเรียนเดิมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) จึงเปิดช่องให้กรณีโรงเรียนที่มีความจำเป็น ให้คณะกรรมการสถานศึกษาประชุมร่วมกันเพื่อขอขยายจำนวนนักเรียนต่อห้อง ซึ่งต้องไม่เกิน 50 คนต่อห้อง หรือขอเพิ่มห้องเรียน จากนั้นให้เสนอสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ให้ความเห็นชอบ