โจรรู้ความเคลื่อนไหว 'คุณหญิงพรทิพย์' บุกงัดบ้านรื้อค้นได้ทรัพย์2.5แสน
"คุณหญิงพรทิพย์" ให้การตร. คนร้ายบุกงัดบ้านรื้อค้นได้ทอง-เงินสด2.5แสน ด้านจนท.คาดโจรรู้ความเคลื่อนไหว ช่วงเวลาไหนที่คนไม่อยู่บ้าน ปีนเข้าทางรั้วด้านหลังบ้าน เลือกงัดประตูบานที่ไม่ได้ปิดประตูเหล็กดัด
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 11 มิ.ย.2561 ร.ต.อ.อัครวัฒน์ เรืองกุลศรีเกษม รองสว. (สอบสวน) สน.บางชัน ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านย่านซอยรามคำแหง 112 ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นบ้านของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อายุ 63 ปี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ ชูพันธุ์ ผกก.สน.บางชัน พ.ต.อ.อภิชาติ อุตรมาตย์ รองผกก.สส. พ.ต.ต.คมศร สมปาน สว.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางชัน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 2 หลัง กว้างประมาณ 400 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ตั้งอยู่บริเวณหัวมุม จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายงัดประตูบานเลื่อนบริเวณหลังบ้าน เข้าไปรื้อค้นทั่วทั้งบ้าน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงได้เก็บหลักฐานลายนิ้วมือไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบรอบบ้านไม่พบกล้องวงจรปิด โดยภายในบ้านมีกล้องวรจรปิดอยู่แต่ใช้การไม่ได้ ส่วนบริเวณใกล้เคียงพบกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้าน 1 ตัว และกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอย และท้ายซอยอีกอย่างละตัว
จากการสอบสวนแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ทราบว่าปกติที่บ้านอยู่กัน 3 คน พ่อแม่ลูก และมีสุนัขตัวเล็กๆ อีก 1 ตัว เวลาประมาณ 13.00 น. ตนออกจากบ้านไปเป็นคนสุดท้าย ก่อนออกบ้านได้ล็อคประตูบ้านทุกบานเรียบร้อยแล้ว และปล่อยสุนัขไว้วิ่งเล่นในบริเวณบ้าน ต่อมาตนกลับมาถึงบ้านเวลาประมาณ 20.00 น. ก็พบว่าบ้านถูกคนร้ายงัดเข้ามา จากการตรวจสอบคนร้ายได้เอาสร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท 1 เส้น แหวนทองคำขาว 20-30 วง มูลค่าประมาณ 150,000 บาท และเงินสด 100,000 บาท รวมมูลค่าประมาณ 250,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนผู้เสียหายเอาไว้ คาดว่าคนร้ายอาจจะรู้ว่าช่วงเวลาไหนที่คนไม่อยู่บ้าน จึงสบโอกาสเข้ามาก่อเหตุโดนปีนเข้าทางรั้วด้านหลังบ้าน ซึ่งรั้วมีความสูงไม่มาก และมีต้นไม้ขึ้นปกคลุม โดยคนร้ายเลือกงัดประตูบานที่ไม่ได้ปิดประตูเหล็กดัด ซึ่งเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป