ปคม.โชว์กวาดล้างค้ามนุษย์ออนไลน์ ลวงเหยื่อถ่ายคลิปขาย
ปคม.โชว์กวาดล้างค้ามนุษย์ออนไลน์ รวบผู้ต้องหา 36 ราย ลวงเหยื่อถ่ายคลิปขาย
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2561 ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รองผบก.ปคม. พ.ต.อ.อธิศวิส กมลรัตน์ รอง ผบก.ปคม. แถลงผลกวาดล้างการค้าประเวณีเด็ก การผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามกภายใต้ชื่อ Operation 4 สามารถจับกุมได้ 21 คดี ผู้ต้องหา 36 คน มีผู้เสียหาย 20 คน ทั้งนี้การดำเนินการจับกุมปราบปรามสื่อลามกเด็กบนอินเตอร์เน็ต มีคณะทำงาน TICAC, บก.ปคม. และบช.ทท. ได้บูรณาการร่วมกัน ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสจากทั้งภายในและนอกประเทศที่กลุ่มองค์กรไม่แสวงผลกำไรอาทิ HUG Project กับ A21 เป็นส่วนช่วยในการสืบสวนและดูแลผู้เสียหาย
ด้านพล.ต.ต.กรไชย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 23 วันของการทำงานตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.-6 มิ.ย. 2561 สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 17 คดี โดยแบ่งเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ 3 คดี ความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็ก 3 คดี และความผิดฐานครอบครองสื่อลามกเด็ก 11 คดี โดยมีผู้ต้องหาทั้งหมด 17 คน เป็นคนไทย 14 คน ชาวเยอรมัน ชาวรัสเซีย และชาวสวิสอย่างละ 1 คน มีผู้เสียหายทั้งหมด 8 คน เป็นเด็ก 6 คนและผู้ใหญ่ 2 คน
อีกคดีทางด้านพล.ต.ต.กรไชย ได้กล่าวถึง "ปฏิบัติการกาหยู" ว่า เป็นการทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ในจังหวัดระนอง ที่ภายหลังชุดปฏิบัติการสืบพบการค้าประเวณีเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดระนอง บก.ทท., บก.ปคม., บก.ภ.จว.ระนอง ได้นำกำลังเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์และดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา 2 กลุ่มโดยแบ่งเป็นคดีแรกที่ชมดาวเกสต์เฮ้าส์ ต.บางริ้น จ.ระนอง ที่สามารถจับกุมนางอำพร สนธิ หรือเจ้จิ๋ม ในข้อหากระทำการค้ามนุษย์ต่อบุคคลอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี สอบพฤติการณ์ทราบว่ามีลักษณะเป็นนายหน้าจัดหาเด็ก และเยาวชน มาค้าประเวณี โดยจะนำภาพของเหยื่อมาให้ผู้เข้าพักที่ต้องการมาซื้อบริการเลือกตัว เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนติดต่อขอล่อซื้อก่อนจะช่วยเด็กหญิงชาวไทยอายุ 16 และ 17 ปี นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการจับกุมนายพีรพล เภาวิเศษ ในข้อหาประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปส่งต่อสภ.ระนอง ทำการสอบสวนต่อไป
พล.ต.ต.กรไชย กล่าวถึงปฏิบัติการที่ 2 ในคดีกาหยู ว่า เป็นการจับกุมชาวต่างด้าวในอาคารชุดซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กุมตัว น.ส.มา ยู ยู วิน ผู้ดูแลอาคารชุด 2 หลังที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบการค้าบริการทางเพศ โดยมีหญิงชาวเมียนมาร์อีก 4 คนเป็นผู้ค้าบริการ ต่อมา ภายหลังผลการคัดแยกไม่ปรากฎว่าชาวเมียนมาร์ทั้ง 4 คนเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์แต่อย่างใด ทั้งหมดจึงถูกดำเนินคดีฐานมั่วสุมในสถานการค้าประเวณี