เปิดปมเชื่อมโยง '4ศพ' คดียิงนักศึกษาอุเทนถวาย
คดียิงนักศึกษาอุเทนถวายฯเริ่มซับซ้อนมากขึ้น เปิดความเชื่อมโยง4ศพ ขณะพ่อของนายกมลวิช หรือเอก สุวรรณทัต เหยื่อกระสุนรายล่าสุด ร้องขอกำลังตำรวจ ดูแลงานศพลูกชายที่ตั้งศพประกอบพิธีทางศาสนาที่วัด
เมื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของนักศึกษาอุเทนถวายรายล่าสุด ย้อนกลับไปถึงเหยื่อกระสุนรุ่นพี่ ก็ยิ่งเห็นอะไรบางอย่างที่อาจนำไปสู่การคลี่คลายปมสังหารในคดีนี้
ศพแรก เมื่อ 15 เมษายน 2559 นายธนิต หรือเต้ ทัฬหสุนทร อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถูกคนร้ายใช้มีดแทงและทำร้ายเสียชีวิตช่วงเทศกาลสงกรานต์ พนักงานอัยการบรรยายในคำฟ้องว่า หลังเที่ยงคืน 15 เมษายน 2559 นายณัฐพงษ์ หรือโจ้ เงินคีรี จำเลยกับนายอาร์รีชัย หรือเบ็นซ์ หรืออาร์ม บุดดาวงค์ พวกของจำเลย ร่วมกันมีเจตนาฆ่านายธนิต หรือเต้ ทัฬหสุนทร ให้ถึงแก่ความตาย ร่วมกันชกต่อยนายธนิต บริเวณใบหน้าและลำคอหลายครั้ง และร่วมกันใช้อาวุธมีดพกปลายแหลมที่พกติดตัวมาแทงประทุษร้ายนายธนิตหลายครั้ง แทงถูกที่บริเวณไหล่ซ้ายลึกทะลุผ่านเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ และทะลุเข้าเส้นเลือดแดงบริเวณใต้ไหปลาร้าข้างซ้าย เป็นเหตุให้นายธนิตได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงแก่ความตาย
ศพที่ 2 ถัดมาเพียง 2 วัน เวลา 19.00 น. วันที่ 17 เมษายน 2559 นายชาญศักดิ์ หรือเอ็ม จันทรส อายุ 22 ปี เพื่อนรุ่นน้องของเต้ และเพื่อนซื้อน้ำอยู่แถววัดกุนนทรี ถูกคนร้าย 2 คน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ใส่ถุงมือสีดำ ปกปิดรูปลักษณ์ทั้งหมด ขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 3 นัด ทำให้ ”เอ็ม” วิ่งหนีไปทางวัดที่กำลังจัดงานศพนายธนิต ทัฬหสุนทร หรือเต้ รุ่นพี่ที่สถาบัน ก่อนจะเสียชีวิต
ศพที่ 3 คืนวันที่ 12 ตุลาคม 2561 กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิงนายกมลวิช สุวรรณทัต เพื่อนสนิทเต้ (ศพแรก) นักศึกษาชั้นปี 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ขณะช่วยมารดาขายอาหารบริเวณปากซอยนวมินทร์ 57 เขตบึงกุ่มเสียชีวิต ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุไม่ใช่มืออาชีพ และใช้อาวุธปืนแบบลูกโม่ขนาด .38 เนื่องจากไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ โดยชุดสืบสวนของทั้งตำรวจนครบาล 4 และชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว อยู่ระหว่างไล่ภาพวงจรปิด ทั้งก่อนและหลังก่อเหตุของคนร้าย เบื้องต้นมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ โดยบิดาผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน เหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากเรื่องระหว่างสถาบัน
ศพที่ 4 ผู้เสียชีวิตอาจจะไม่เชื่อมโยงกับสถาบัน แต่เหตุดังกล่าว ผู้เสียชีวิตเป็นพ่อของผู้เสียชีวิตศพแรกคือน้องเต้ เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 นายศุภชัย ทัฬหสุนทร เกิดความเครียดร้องไห้เสียใจ ได้ปีนข้ามช่องหน้าต่าง บริเวณทางเดินหน้าห้องพิจารณาคดี กระโดดจากชั้น 8 อาคารศาลอาญารัชดาฯ ร่างกระแทกพื้นเสียชีวิต บริเวณทางเดินด้านหน้าอาคารศาล ซึ่งเป็นลานจอดรถ หลังศาลพิพากษายกฟ้องนายณัฐพงษ์ หรือโจ้ เงินคีรี จำเลยความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านฯ ในคดีนายธนิต ทัฬหสุนทร ลูกชายถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตช่วงวันสงกรานต์ ปี 2559
โฆษกศาลยุติธรรม นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล อธิบายคำพิพากษาในคดีว่า เหตุผลโดยสรุปคือ ประจักษ์พยานที่อ้างว่า เห็นเหตุการณ์และให้การไว้ในชั้นสอบสวนไม่อาจมาเบิกความในชั้นศาลได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรักษาอาการป่วยทางจิตที่โรงพยาบาล จึงต้องรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนที่นำส่งในชั้นศาลประกอบพยานหลักฐานอื่น แต่พยานหลักฐานอื่นยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ เช่น ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด พบว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีผู้คนเป็นจำนวนมาก ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏในชั้นศาลนั้นเห็นแต่เพียงเหตุการณ์ปากทางเข้าซอยที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถบันทึกภาพบริเวณจุดเกิดเหตุไว้ได้ ดังนั้นเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง