'ขาวผ่อง' ออกโรงค้านร่างพ.ร.บ.มวยเด็กต่ำกว่า12ขึ้นชก
"ขาวผ่อง ทวี อัมพรมหา" ตำนานนักชกไทย พร้อมคนดังในวงการมวยไทย ออกโรงค้านการร่างแก้ไขพ.ร.บ.มวย 2542 ห้ามเด็กต่ำกว่า 12 ปีขึ้นสังเวียน พร้อมชี้ส่งผลกระทบต่อวงการ
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2561 ที่เจริญทอง มวยไทยยิม "ขาวผ่อง" ทวี อัมพรมหา อดีตนักกีฬาเหรียญเงินโอลิมปิกปี 1984 พร้อมด้วยผู้มีชื่อเสียงในวงการมวยไทย ทั้ง "ครูเป็ด" เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง นายกสมาคมมวยไทยนายขนมต้ม, พายัพน้อย ส.ธนิกุล, ตะคร้อเล็ก เดชรัตน์, มรกตดำ รัตนโชติ และทองแดง ส.ลักขณา ได้ร่วมแถลงจุดยืนต่อต้านกรณีพ.ร.บ.มวย พ.ศ.2542 ที่กำลังจะแก้ไขด้วยเพิ่มกฏห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชกบนสังเวียน
โดย "ขาวผ่อง" กล่าวถึงประเด็นที่มีเด็กอายุ 13 ปีที่เพิ่งเสียชีวิตจากการชกมวยว่า "ผมขอพูดถึงเรื่องที่น้องอายุ 13 ปี เสียชีวิต ผมดูแล้วมันเป็นอุบัติเหตุ เขาไม่ได้โดนต่อยตายหรอก แต่โดนหมัดนั้นอาจทำให้วูบไปแล้วศีรษะฟาดพื้น กรรมการวิ่งเข้าไปเซฟไม่ทัน ซึ่งเราจะไปโทษกรรมการก็ไม่ได้ โทษนักมวยก็ไม่ได้ มันเป็นอุบัติเหตุ จังหวะแบบนั้นไม่ต้อง 13 ปีหรอกครับ อายุ 60 ปีแบบผมถ้าวูบแล้วล้มลงไปแบบนั้นก็คงไม่รอดเหมือนกัน ซึ่งแนวทางการป้องกัน คนในวงการมวยเองต้องถอยมาตั้งหลักกันก่อน อย่าเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน ทุกอย่างต้องมีความเท่าเทียมกัน"
ขณะที่ "ครูเป็ด" ระบุเพิ่มเติมว่า "ผมว่าจริงๆแล้วการจัดการแข่งขันแต่ละที่แต่ละแมตช์มันต้องมีครบทุกอย่าง หมอ พยาบาล รถฉุกเฉินที่จะพาไปโรงพยาบาลมีไหม อันนี้ผมไม่ทราบ ซึ่งหลายอย่างที่ประกอบกัน แต่มันก็ทำให้ภาพที่ออกมาเป็นแบบนี้ อีกอย่างกรรมการมวยบางทีเห็นเป็นพวกมาจัดมวยเอาใครมาก็ไม่ทราบ เราก็ไม่รู้ว่ากรรมการคนนั้นผ่านการดูแลจากการกีฬาแห่งประเทศไทยหรือไม่ มันก็อาจทำให้เหตุการณ์ตอนนั้นมันไม่ปกติ"
ส่วน ตะคร้อเล็ก เดชรัตน์ เผยว่า "เด็กคนนี้ตามข่าวเขาบอกว่าต่อยเยอะมาก 170 กว่าครั้ง ความจริงเรามีพ.ร.บ.มวยอยู่ มันกำหนดอยู่ว่าการที่จะขึ้นชกได้แต่ละครั้งมันต้องห่างกัน 21 วัน ตรงนี้กฎหมายควรมาดูแลตรงนี้มากกว่า ดีกว่าเราไปห้ามตัวเด็กที่อายุไม่ถึง 12 ปีขึ้นชกเลย เราควรมาดูแลตรงนี้มากกว่า อย่างเช่นกฎหมายกำหนดว่าต้องมีระยะเวลา 21 วัน เราก็ควรมาควบคุมตรงนี้ให้ได้ กีฬาทุกชนิดมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ แล้วก็ตายได้เหมือนกันหมด"
มาถึงประเด็นเรื่องการต่อต้านการเพิ่มร่างในพ.ร.บ.มวย ฉบับพ.ศ.2542 "ขาวผ่อง" ให้สัมภาษณ์ว่า "สาเหตุที่ผมค้านเพราะว่า 99 เปอร์เซนต์ของยอดมวยทั้งในอดีต และปัจจุบัน เริ่มชกตอนอายุต่ำกว่า 10 ขวบทั้งนั้น เพราะมวยไทยเป็นกีฬาที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องมีเงินทองอะไรมากมาย และที่สำคัญพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกที่จะต้องมาชกมวยเพราะต้องหาเลี้ยงครอบครัว หรือหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งกีฬาชนิดอื่นๆเขาก็เริ่มเล่นกันตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบทั้งนั้น ไม่มีใครมาเริ่มตอนอายุ 20 ปี"
นอกจากนั้นอดีตกำปั้นเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิคของไทยคนแรก กล่าวเพิ่มเติมว่า "ผมอยากจะเสนอให้ยกร่างใหม่ทิ้งให้หมด และนำพ.ร.บ.มวย ปี 42 อันเดิมที่มันดีอยู่แล้วมาใช้ ปกติเวทีมวยสากลเขาก็ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชก เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ตามเวทีมวยต่างจังหวัดมากกว่า ซึ่งเป็นความจริงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อด้านสมองกับเด็ก แต่กีฬาอื่นก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นเราควรเพิ่มอุปกรณ์ป้องกันเข้าไปมากกว่าประเด็นการแก้ไขพ.ร.บ. รวมถึงเรื่องของการขึ้นชกที่ต้องมีระยะห่าง 21 วัน และการแบกน้ำหนักของนักมวย ที่ต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดกว่าเดิม"