ดอลล์แข็งเทียบค่าเงินสกุลหลักหลังนลท.แห่ซื้อ
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟด จะยังคงปรับลดงบดุลลงจากระดับปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดมีปริมาณลดลง โดยถ้อยแถลงดังกล่าวนับเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดยังคงมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาเตือนว่า ความยืดเยื้อของสถานการณ์ชัตดาวน์อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.42 เยน จากระดับ 108.26 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9842 ฟรังก์ จากระดับ 0.9750 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3227 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3221 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1499 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1544 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2744 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2794 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7182 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7180 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากที่นายพาวเวลได้กล่าวถึงกรณีที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกปิดการดำเนินงานชั่วคราวเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ ว่า หากสถานการณ์ชัตดาวน์ยืดเยื้อออกไป ผลกระทบก็จะปรากฏให้เห็นอย่างรวดเร็วและชัดเจนผ่านทางข้อมูลเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า ความยืดเยื้อของภาวะชัตดาวน์จะส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจไร้ทิศทาง
การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างที่นาวพาวเวลขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งกรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ว่า ซึ่งในโอกาสนี้นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า เฟดสามารถยืดหยุ่นและมีความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเฟดสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินตามขอบเขตที่สมควร หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลง