ปลด 'ศศิธารา' ออกจากราชการอีกรอบ ปมทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวะ
อ.ก.พ.ศธ.เผยผลสอบสวนการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษาโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่2 (SP2) สรุป "ศศิธารา" อดีตเลขาธิการกอศ.ไม่ปฎิบัติตามระเบียบแบบแผน และระเบียบของราชการ ส่งผลเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง มีมติปลด ออกจากราชการ
วันนี้ (14 ม.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.)เปิดเผยว่า ในการปะชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาการสอบสวนการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษาโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่2 (SP2) ที่น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ถูกกล่าวหาว่าทำสัญญากำหนดค่าปรับในสัญญาของโครงการนี้ที่แตกต่างกัน ซึ่งบางฉบับกำหนดค่าปรับ 0.02 %บางฉบับ0.2% ทั้งที่เป็นการจัดซื้อในคราวเดียวกัน โดยที่ประชุมได้มีการพิจาณาอย่างรอบด้านจนได้ข้อสรุปว่า กรณีนี้ น.ส.ศศิธารา ไม่ปฎิบัติตามระเบียบแบบแผนและระเบียบของราชการ ส่งผลทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง ซึ่งที่ประชุมจึงมีมติให้ปลด น.ส.ศศิธารา ออกจากราชการ
"เรื่องนี้มีการเสนอในที่ประชุม อ.ก.พ.ศธ.หลายครั้งแล้ว ซึ่งในที่สุดเราได้เอกสารข้อมูลทางกฎหมายที่ชัดเจน และมีการพิจารณาพร้อมกับการซักถามอย่างรอบจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย จึงได้มีมติปลดออกจากราชการ เพราะไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะไปปรับสัญญาตามใจชอบ ส่วนประเด็นที่ น.ส.ศศิธารา เคยโดนมติที่ประชุม อ.ก.พ.สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวง ที่มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศธ.เป็นประธาน มีมติให้ปลดออกจากราชการแล้วเช่นกันนั้น ในเรื่องนี้เป็นเรื่องของต่างกรรม ต่างวาระ โดยการสอบสวน น.ส.ศศิธารา ที่เกี่ยวข้องโครงการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษาโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่2 (SP2) นั้นมีหลายกระทง ซึ่งที่ประชุมที่มีผมเป็นประธานได้พิจารณากระทงเดียว คือ การทำสัญญากำหนดค่าปรับของโครงการดังกล่าว ซึ่งท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรแต่จะมีผลย้อนหลังเหมือนเดิมเท่านั้น" รมว.ศธ. กล่าาว