สำรวจถ้ำหลวงถึง 3 แยก ทรายปิดทางเนินนมสาว คาดรอ 1 เดือนสำรวจใหม่
กรมอุทยานฯ สำรวจถ้ำหลวงครั้งแรกใช้เวลา 5 ชม. พบน้ำยังท่วม 3 แยก โคลนเพียบ ทรายปิดทางเข้าเนินนมสาว สำรวจได้แค่สามแยก รออีก 1 เดือน เข้าสำรวจใหม่ ถังออกซิเจนยังค้างอยู่ในถ้ำนับร้อย
นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ หรือหน่วยซีล ได้นำคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ หน่วยซีล หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วย มิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 35 นาย เข้าทำการสำรวจภายในถ้ำหลวง ตั้งแต่โถงแรกไปถึงโถงที่ 3 เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี จำนวน 13 คน แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 เนื่องจากตรวจพบระดับน้ำที่โถงแรกแห้งลง
ซึ่งช่วงบ่าย คณะทีมสำรวจทั้งหมดได้เดินทางกลับออกมาทางปากถ้ำ โดยภารกิจในการถ่ายภาพและบันทึกข้อมูลอุปกรณ์ที่คงค้างตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกภายในถ้ำ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ถือว่าเสร็จสิ้นด้วยดี แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินหน้าสำรวจต่อจากสามแยกแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางหาดพัทยา หรือพัทยาบีช รวมถึงเนินนมสาว ซึ่งเป็นจุดที่เยาวชนทั้ง 13 เคยใช้หลบภัยน้ำท่วมภายในถ้ำได้ เนื่องจากพบว่าบริเวณช่องที่เชื่อมจากสามแยกไปทางเส้นทางซ้าย เต็มไปด้วยตะกอนทราย ทำให้ยากต่อการเดินทางผ่าน รวมทั้งยังมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งการจะผ่านจุดดังกล่าวไปได้ต้องใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่มีความพร้อมเหมือนตอนที่มีปฏิบัติการช่วยเหลือเยาวชนดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่สำรวจได้ถึงบริเวณดังกล่าวแล้วจึงเดินทางกลับ รวมแล้วใช้เวลาปฏิบัติการประมาณ 5 ชั่วโมง โดยเดินทางถึงปากถ้ำเวลา 13.30 น. ทั้งนี้ นายจงคล้ายฯ นายกมลไชยฯ และพลเรือตรีอาภากร ได้นำเจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณสามแยกได้จำนวน 21 นาย แต่เนื่องจากไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และออกซิเจนภายในถ้ำเบาบาง รวมทั้งมีน้ำไหลออกจากหินงอกหินย้อยตามผนังอยู่ตลอดเวลา จึงหยุดการสำรวจและเดินทางกลับทางเดิม
สรุปผลการสำรวจพบว่า ภายในมีถังออกซิเจนวางอยู่ตลอดรายทาง โดยมีอยู่ที่โถงที่ 3 ประมาณ 100 กว่าถัง โถงที่ 2 ประมาณ 100 กว่าถัง ในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเปลสนามและสายเชือกที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงเส้นทางถึงกันไปตลอดรายทาง โดยพบระหว่างโถงที่ 2-3 มากที่สุด เพราะโถงที่ 2 มีความยาวและภูมิประเทศขรุขระเต็มไปด้วยหน้าผาและซอกหินผาสูงต่ำจำนวนมาก นอกจากนี้ ในโถงทั้ง 2 แห่ง ยังพบเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ และโถงที่ 3 พบสายส่งออกซิเจนมากที่สุด รวมทั้งพบกระดาษฟรอยด์ที่หน่วยใช้ประโยชน์ พบอาหารพาวเวอร์เจล วิทยุสมัยสงครามโลกทั้ง 2 ที่ใช้สื่อสาร เพราะเคยเป็นสถานที่ที่เจ้าหน้าที่เคยใช้เป็นศูนย์บัญชาการภายในถ้ำด้วย
นายจงคล้ายฯ กล่าวว่า ภารกิจครั้งนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปตรวจพบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และได้บันทึกข้อมูล รวมทั้งถ่ายภาพตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกไว้แล้ว คาดว่าหากจะเข้าไปจากสามแยกไปยังบริเวณจุดที่พบเยาวชนทั้ง 13 คน คงจะใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือน เพื่อให้น้ำแห้งและเตรียมอุปกรณ์กำลังพลให้มีความพร้อมต่อไป
ด้าน พลเรือตรีอาภากรฯ กล่าวว่า การเข้าไปสำรวจถ้ำหลวงครั้งนี้ เป็นเหมือนการรำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งปฏิบัติการที่ผ่านมา สิ่งที่พบเห็นภายในถ้ำทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ร่วมกันเข้าไปปฏิบัติการ เพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อมองย้อนไปก็ยังสงสัยว่าพวกเราขนเข้าไปได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม การเข้าไปในถ้ำครั้งนี้ถือว่าสะดวกกว่าช่วงปฏิบัติการ ที่มีความยากลำบาก ส่วนการจะเข้าไปให้เลยช่วงสามแยก ที่ยังคงมีเครื่องมืออุปกรณ์ตกค้างอยู่ คงต้องรอให้ระดับน้ำภายในลดลงกว่านี้