พีพีทีวี “จัดหนัก” คอนเทนท์ละคร ปูทางขึ้นท็อป 5 ทีวีดิจิทัล
ยังคงเป็น “ความลับ” ทางธุรกิจ สำหรับ “พีพีทีวี ช่อง 36” เดินกลยุทธ์ “ทางลัด” ใช้เงินในการดึงรายการทีวีดังๆ ดารา นักแสดง พิธีกรระดับ “แม่เหล็ก”
เช่น กิ๊กดู๋สงครามเพลงเงินล้าน ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชระตระกูล จากช่อง 7 เดอะ วอยซ์ ก่อนบ่ายคลายเครียด จากช่อง 3 มาเสริมความแข็งแรงให้กับช่อง
พีพีทีวี 36 ธุรกิจทีวีดิจิทัลของ “หมอเสริฐ” นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มี “สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์” เป็นแม่ทัพคนสำคัญวางหมากปลุกปั้นช่อง ฉายภาพทิศทางธุรกิจปีนี้ว่า ยังคงย้ำภาพการเป็น “World class TV” มีคอนเทนท์ระดับโลก เช่น ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บุนเดสลีกา ลาลีกาสเปน เทนนิส ออสเตรเลียนโอเพ่น โมโตจีพี เดอะ วอยซ์ แพลตฟอร์มที่ขายไปยัง 90 ประเทศทั่วโลก
แม้จะมีคอนเทนท์ท็อปๆ แต่กลับเจาะกลุ่มคนดูได้บางกลุ่ม คือ ผู้ชาย 60% กลุ่มคนในกรุงเทพฯ และหัวเมือง สวนทางภาพใหญ่ของธุรกิจทีวี เพราะคนดูส่วนใหญ่(Mass)เป็นผู้หญิง แม่บ้าน คนวัยเกษียณ คนว่างงาน และคนต่างจังหวัด บริษัทจึงเพิ่ม “More” ดึงคอนเทนท์บันเทิง ทั้งละคร รายการวาไรตี้ มาเอาใจคนดูทั่วประเทศ
“ปีนี้เป็นปีสำคัญของเราในการก้าวสู่การเป็นสถานีโทรทัศน์ที่นำเสนอรายการครบสมบูรณ์ทุกรายการ เน้นคอนเทนท์เอ็นเตอร์เทนเมนต์มากขึ้น โดยเราขอ Go Big ตัดสินใจทำละคร สำคัญมาก เพราะเป็นแผนธุรกิจระยะยาว สถานีต้องลงทุนด้านบุคลากร ทีมงาน ดารานักแสดงฯ ทำให้การทำงานของบริษัทปรับเปลี่ยนไปมากพอสมควร เพราะเดิมเรามีแต่ซื้อรายการจากต่างประเทศ ไม่เคยผลิตเอง การบริการจัดการคนจึงท้าทายมาก ต้องสร้างทีมให้เข้มแข็ง มีลอยัลตี้ต่อช่อง”
ปีนี้บริษัททุ่มงบลงทุนราว 2,000 ล้านบาท เพื่อผลิตและซื้อคอนเทนท์ต่างๆ เมื่อโฟกัสละครมากขึ้น งบก้อนนี้จึงแบ่ง 500 ล้านบาท เพื่อผลิตละคร ทั้งปีวางแผนไว้ 10 เรื่อง เช่น วุ่นรักนักข่าว ของบริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) มีแอนดริว เกร็กสัน และ นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี นำแสดง กลับไปสู่วันฝัน ของบริษัท CHANGE 2561โดยผู้จัด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา มีออย-ธนา สุทธิกมล, สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์ นำแสดง ธิดาซาตาน ของบริษัท กันตนา โมชั่น พิคเจอร์ส จำกัด โดยผู้จัด ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก มี สกาย มาเรีย เฮิร์ชเลอร์ และ ฟิลลิปส์-ณัทธนพล ทินโรจน์ เป็นต้น แต่คาดว่าปีนี้จะมีเพียง 6 เรื่องที่ออกอากาศ ส่วนสล็อตเวลาออกอากาศจะเป็นช่วงไพรม์ไทม์ 20.20 น.วันพุธ-อาทิตย์ ซึ่งยังว่างอยู่
มุ่งสร้างคอนเทนท์บันเทิง จะใช้ “พลังเงิน” ดูดแม่เหล็กจากช่องต่างๆมาอย่างเดียวไมได้ บริษัทจึงปั้นนักแสดงเลือดใหม่ภายใต้สังกัดตัวเอง 9 คน เพื่อแจ้งเกิดบนหน้าจอพีพีทีวี
ที่ผ่านมาพีพีทีวี ถูกมองเป็นช่องจอม “ดูด” ดารา รายการดัง ผู้จัดมาร่วมงาน “สุรินทร์” ย้ำว่าเป็นสิ่งทีเกิดขึ้น “ธรรมชาติ”ในสังเวียนธุรกิจ มีฝ่ายหนึ่งทาบทาม และอีกฝ่ายสนใจมาร่วมงาน มีปัจจัยอื่นประกอบ ไม่ใช่แค่ “เงิน” เท่านั้น
“ดารา ผู้จัด รายการที่มาอยู่กับเรามันมีเหตุผล ไม่ใช่พลังดู การตัดสินใจมีมากกว่าเรื่องเงิน ถ้าคิดเรื่องเงินอยู่รอดไม่นาน เพราะอาชีพเราถ้าจ้างแพงจะลำบากเหมือนกัน ที่สุดแล้วนี่คือธุรกิจ เราต้องการอยู่กับใคร ต้องดูการทำงานของทีวีช่องนั้น มีความทะเยอทะยานมากแค่ไหนในการทำธุรกิจ ผลิตรายการ มีดารา บทประพันธ์ ให้ผู้จัดหรือไม่ มีผู้บริหารที่ถูกต้องพร้อมร่วมหัวจมท้ายไหม ฯ หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ โอกาสประสบความสำเร็จมีน้อย”
การเพิ่มละคร ยังทำให้สัดส่วนคอนเทนท์ทางสถานีเปลี่ยน โดยรายการบันเทิงจะมากกว่า 50% ข่าว 30% และกีฬา 20% จากเดิมบันเทิง 30% กีฬา 30% ข่าว 38-40%
มีคอนเทนท์แมส ดาราแม่เหล็กเสริมทัพ แต่บริษัทยังไม่มีแผนขยับค่าโฆษณา โดยช่วงไพรม์ไทม์ที่รายการกิ๊กดู๋ฯ อยู่ที่ 2.5 แสนบาทต่อนาที ช่วงรายการเดอะ วอยซ์ 3 แสนบาทต่อนาที แต่ถ้ามีการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกค่าโฆษณาจะมากกว่า 3 แสนบาทต่อนาที แต่ในภาพรวมธุรกิจต้องโต จัดหนักด้านคอนเทนท์เสริฟคนดูเต็มที่ จึงคาดหวังรายได้ปีนี้จะเติบโต “เท่าตัว” ส่วนเรตติ้งต้องการขยับติด “ท็อป 5” ในปีนี้ จากปัจจุบันอยู่อันดับ 10
“สื่อดั้งเดิมสิ่งพิมพ์ ทีวีอยู่ในช่วงขาลง แต่ไม่ใช่ทุกรายต้องลำบากหมด แต่ผู้เล่นในสนามสุดท้ายคาดว่าจะเหลือไม่เกิน 10 ช่องที่แข็งแรง และหากต้องการชนะในสังเวียนจอแก้วต้องมีคอนเทนท์ดี”
ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดประชาพิจารณ์ให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลคืนใบอนุญาติช่องทีวีดิจิทัล(ไลเซ่นส์)เป็นเรื่องดี เพราะเปิดทางให้ผู้ประกอบการที่ขาดทุนหรือ “เจ๊ง” ออกจากธุรกิจได้ จากเดิม “เจ๊ง” อยากออกต้องหาเงินมาจ่ายค่าใบอนุญาติก่อน
“คนพร้อมสู้ก็สู้ คนพร้อมถอยก็ถอย ไม่ใช่เดินหน้าฆ่ากัน ถอยไมได้”