'ดีเอสไอ' เร่งขยายสอบทุนต่างด้าว รุก 'ภูขี้ไก่'

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ภายหลังดีเอสไอและกรมป่าไม้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีนายทุนเข้าไปบุกรุกพื้นที่ภูขี้ไก่ จ.เพชรบูรณ์ พื้นที่ป่ารอยต่อระหว่าง อ.หล่มเก่า และ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเดือนตุลาคมปี 61 และพบความผิดปกติเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินที่ขัดกับสภาพพื้นที่ โดยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นป่าสมบูรณ์ มีสภาพเขาสูงชัน และเป็นป่าต้นน้ำและไม่น่าจะออกเอกสารสิทธิ์ได้ ดังนั้นจึงตรวจสอบหลักฐานตามหลักนิติวิทยาศาสตร์และได้ให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้อ่านแปลและวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า พื้นที่ภูขี้ไก่มีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ตามหลักเกณฑ์ ดีเอสไอจึงได้ส่งเรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีมูลกล่าวหาว่าได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่ พร้อมทั้งส่งข้อมูลเกี่ยวกับการอ่านแปลและวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศและแจ้งผลการดำเนิน การไปยังกรมที่ดินเพื่อพิจารณาดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ล่าสุดกรมที่ดินได้มีคำสั่งตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ให้เพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณดังกล่าว รวม 57 แปลง เนื้อที่รวมกันกว่า 2,195 ไร่ แล้ว โดยขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการพื้นที่ภาค 6 ของดีเอสไอ ยังคงดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องและผู้ใช้ประโยชน์ในที่ดินและได้มีการเพิกถอนพื้นที่บางส่วนแล้ว รวมทั้งพื้นที่ที่มีการเตรียมธุรกิจสวนน้ำ รวมทั้งชุมชนที่ใช้ชื่อว่า "ธะ ธรรมชาติ" ที่เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวด้วย ว่าอาจมีการดำเนินการในลักษณะผิดกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หรือกฎหมายอื่นอีกหรือไม่ และยังได้ขยายผลการตรวจสอบไปยังที่ดินใกล้เคียงพื้นที่เพิกถอนโฉนดที่มีลักษณะเดียวกันจนกว่าข้อเท็จจริงจะปรากฎต่อไป