พท.เคาะ! 'สุดารัตน์-ชัชชาติ-ชัยเกษม' บัญชีนายกฯ
“เพื่อไทย” เคาะ! “คุณหญิงสุดารัตน์-ชัชชาติ-ชัยเกษม” อยู่บัญชีนายกฯ ส่ง “วิโรจน์” ลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1
เมื่อวันที่ 31 ม.ค.62 ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ เพื่อพิจารณารายชื่อนายกฯของพรรคเพื่อไทย ว่าที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ จำนวน 3 รายชื่อ ได้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคฯ ,นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเห็นว่า ทั้ง 3 บุคคลมีความสามารถเหมาะสม เพราะ คุณหญิงสุดารัตน์ มีความเชี่ยวชาญทางการเมือง นายชัชชาติ มีความเชี่ยวชายด้านเศรษฐกิจ และนายชัยเกษม มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย
ส่วน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค ขอถอนตัวจากบัญชีนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีรายชื่ออยู่ในผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 แล้ว และรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคทั้ง 3 คน จะอยู่ในบัญชีรายชื่อ ส.ส. ของพรรคด้วย
นายภูมิธรรม ยังเปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยได้จัดทำรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อเสร็จสิ้นแล้ว โดยแบบบัญชีรายชื่อพรรคส่งทั้งสิ้น 100 รายชื่อ ประกอบด้วย อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. นักวิชาการ นักบริหารมืออาชีพ คนรุ่นใหม่ นักธุรกิจและผู้ประกอบการและแบบแบ่งเขต พรรคเพื่อไทย จะส่ง 250 เขต แบ่งเป็นภาคเหนือ 51 เขต ภาคอีสาน 112 เขต ภาคกลาง 55 เขต ภาคใต้ 10 เขต และ กทม. 22 เขต ซึ่งทั้ง 250 เขตนี้ พรรคมั่นใจว่าจะสามารถคว้าชัยชนะได้ทุกพื้นที่ เพราะผู้สมัคร ล้วนเป็นอดีตนักการเมืองของพรรคเพื่อไทย ที่มีประสบการณ์และขอให้ประชาชนช่วยกันเลือกพรรคเพื่อไทย ให้ได้มากกว่า 70,000 คะแนน ทุกเขตเลือกตั้ง เพื่อนำคะแนนไปคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงคว้าชัยชนะในรัฐสภา
นายภูมิธรรม ยังปฏิเสธกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัคร ไม่ครบ 350 เขต เพื่อหลีกทางให้พรรคสาขา ว่า ด้วยกลไก และเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญหลายอย่างทำให้เกิดอุปสรรค พรรคจึงตัดสินใจส่งผู้สมัครในเขตที่มั่นใจว่าจะคว้าที่นั่งเท่านั้น และย้ำว่า จะฝ่าฟันนำชัยชนะมาให้ได้ทุกเขต
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทุกคน จะเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อมารับใบส่งตัว เพื่อนำไปสมัครต่อ กกต. ในแต่ละเขตเลือกตั้ง ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนที่พรรคจะไปยื่นสมัคร ส.ส.แบบัญชีรายชื่อ และบัญชีนายกรัฐมนตรี ต่อ กกต. ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ต่อไป