รวบสาวกุเรื่องถูกลักพาตัว ให้โอนค่าไถ่ 1 แสนเข้าบัญชีตัวเอง
ตร.กองปราบรวบสาวกุเรื่องถูกลักพาตัวให้น้องสาวโอนเงินค่าไถ่ 1 แสนเข้าบัญชีตัวเอง สืบสวนพบพิรุธ เค้นสอบรับสารภาพติดพนันออนไลน์ เล่นผ่านโทรศัพท์มือถือ
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม น.ส.พัชรี อายุ 24 ปี พร้อมญาติ ได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจกองปราบระบุว่า น.ส.ปราณี หรือ ปู อายุ 26ปี พี่สาวถูกลักพาตัวไป เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.44 น. จากนั้นได้มีการติดต่อเข้ามาทางแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊คของ น.ส.พัชรี โดยมีภาพ น.ส.ปราณี พี่สาวนั่งร้องไห้ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง แต่ถูกปิดเสียงไว้ ลักษณะถูกบังคับ ต่อมามีข้อความเข้ามาทางแอปพลิเคชั่นของ น.ส.พัชรี ว่าให้โอนเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวน.ส.ปราณีพี่สาวโดยให้โอนเข้าบัญชีของ น.ส.ปราณี ซึ่งทางน.ส.พัชรี กลัวว่าพี่สาวจะได้รับอันตรายจึงโอนเงินเข้าบัญชี ของพี่สาวจำนวน 10,000 บาท เมื่อเวลาประมาณ 21.14 น. ของวันที่ 30 ม.ค.62 และต่อมาโอนเงินอีก จำนวน 10,000 บาท เวลาประมาณ 07.52 น. ของวันที่ 31 ม.ค.62 ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 80,000 บาท บุคคลที่ลักพาตัวแจ้งว่าให้ไปโอนจ่ายให้ที่สถานีขนส่งหมอชิตตอนพบตัวพี่สาวแล้ว เมื่อโอนส่วนที่เหลือเสร็จจะปล่อยตัวพี่สาวคืนมาให้ โดยนัดพบกันเวลาประมาณ 21.00 น.
ต่อมา น.ส.พัชรี ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้สืบสวนและจับกุมกลุ่มบุคคลที่ลักพาตัวพี่สาวไป โดยทาง พ.ต.ท.ภคพล สุชล และ พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์ สว.กก.1 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนเรียกชุดปฏิบัติการสืบสวนประชุมและวางแผน โดยให้ น.ส.พัชรี ติดต่อกับกลุ่มบุคคลที่ลักพาตัวตลอดเวลาและให้ชุดสืบสวนกระจายกำลังอยู่ทั่วบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต ต่อมาเวลาประมาณ 20.50 น. ชุดสืบสวนได้สังเกตเห็น น.ส.ปราณี ที่อ้างว่าถูกลักพาตัวไป เดินลงมาจากรถโดยสารประจำทาง กรุงเทพฯ - เชียงใหม่แต่เพียงผู้เดียว โดย น.ส.ปราณี เดินมุ่งหน้าไปยังอาคารผู้โดยสารขาออก ซึ่งระหว่างเดิน น.ส.ปราณี ได้ใช้โทรศัพท์มือถือตลอดเวลา
ต่อมา น.ส.ปราณี เดินเข้าห้องน้ำภายในสถานีขนส่งหมอชิต 2 จากการเฝ้าสังเกตุการณ์ตั้งแต่ต้นพบว่า น.ส.ปราณี เดินมาแต่เพียงผู้เดียวไม่ได้มีใครติดตามมาด้วยแต่อย่างใดซึ่งผิดปกติเป็นอย่างมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงเช้าแสดงตัวและนำตัวน.ส.ปราณี มาสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริง ในที่สุด น.ส.ปราณียอมรับสารภาพว่า ไม่ได้มีใครลักพาตัวตนเองแต่อย่างใด ตนเองเป็นผู้กุสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อหลอกเอาเงินน้องสาวและบิดา มารดา ของตนเอง เนื่องจากติดการพนันออนไลน์ จึงต้องการเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายและเล่นการพนัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สอบถาม น.ส.พัชรี ซึ่งระบุว่าไม่ต้องการดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง จากนั้นได้ทำการตรวจสอบโทรศัพท์ของ น.ส.ปราณี พบหลักฐานการเล่นพนันออนไลน์(หวยจับยี่กี) ในโทรศัพท์มือถือขโดยเล่นผ่านเว็บไซต์และทางน.ส.ปราณี ยอมรับว่าได้เล่นการพนันออนไลน์(หวยจับยี่กี)ผ่านทางโทรศัพท์มือถือของตนจริง จึงจับกุม น.ส.ปราณีฯพร้อมแจ้งข้อหาและสิทธิ์ผู้ต้องหาให้ น.ส.ปราณีทราบ พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์เป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป