ศาลสั่งจำคุก2เดือน ปรับ6พัน หนุ่มวินซิ่งยืนบนเบาะโชว์บน ถ.อ่อนนุช
ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 6 พัน หนุ่มวิน จยย. ซิ่งยืนบนเบาะโชว์บนถ.อ่อนนุช รับสารภาพเหลือคุก 1 เดือน ปรับ 3 พัน -รออาญา 2 ปี
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.62 ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพาวุธ เมื่อเวลา 11.00 น. พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 6 ได้ยื่นฟ้องด้วยวาจา นายกัณภัค อายุ 24 ปี ชาว จ.สระแก้ว อาชีพวินจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น , ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตราย แก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สิน และขับรถในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถธรรมดา อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ ฉบับที่ 7 พ.ศ.2550 กับ ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2551
โดยคำฟ้อง ระบุพฤติการณ์จำเลย สรุปว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.62 เวลากลางวัน จำเลยซึ่งประกอบอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ วินสายสัมพันธ์ เขตประเวศ ซึ่งสวมเสื้อวินหมายเลข 19 และได้รับอนุญาตให้ขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ออกโดยนายทะเบียนจังหวัดกรุงเทพมหานคร 3 ได้ขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะป้ายเหลือง หมายเลขทะเบียน 1 กง 5174 กรุงเทพมหานคร โดยไม่สวมหมวกนิรภัย (กันน็อค) , ไม่จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และไม่เสียภาษีประจำปี ได้ขี่รถคันดังกล่าวไปตาม ถ.อ่อนนุช ขาออก ในช่องทางเดินรถที่ 2 นับจากด้านซ้าย โดยแล่นมาจาก ถ.ศรีนครินทร์ มุ่งไปทางลาดกระบังซึ่งเป็นเส้นทางสาธารณะด้วยความเร็วสูง ในขณะที่มีรถจักรยานยนต์และรถยนต์คันอื่นๆ ใช้ถนนดังกล่าวแล่นไป-มาเป็นจำนวนมาก
โดยจำเลย ได้ยืนตรงอยู่บนเบาะที่นั่งคนขี่ แล้วจำเลยได้ใช้เหรียญล็อคบริเวณคันเร่งของรถคันดังกล่าวไว้ในขณะที่จำเลยไม่ได้ใช้มือจับคันบังคับ หรือแฮนด์ของรถคันดังกล่าวแต่อย่างใดในช่วงที่รถวิ่งเป็นระยะทางไกล และจำเลยก็ไม่ได้นั่งขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวตามปกติเช่นเดียวกับบุคคลโดยทั่วไป ซึ่งจำเลยได้ขี่รถจักรยานนั้นในลักษณะส่ายไปมาทำให้ผู้ขี่รถจักรยานยนต์และขับรถยนต์อื่นที่ใช้ช่องทางเดินรถบริเวณเดียวกับจำเลยต้องเบรกและหักหลบ น่าหวาดเสียว ซึ่งอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์คันอื่นที่ใช้ถนนดังกล่าวได้จากการที่จำเลยขี่รถในลักษณะที่ผิดปกติวิสัย ซึ่งจำเลยไม่ได้ขี่รถจักรยานยนต์ดังกล่าว โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
เหตุเกิดที่แขวง-เขตประเวศ กทม. โดยเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 11.30 น. จำเลยได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนและได้นำรถจักรยานยนต์ที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดดังกล่าวมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลาง โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับจำเลยและทำการสอบสวนแล้ว ให้ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ ซึ่งระหว่างสอบสวนจำเลยไม่ได้ถูกควบคุมตัว โจทก์ก็ได้นำตัวจำเลยมายื่นฟ้องต่อศาลในวันนี้ โดยความผิดฐานขับรถโดยไม่สวมหมวกกันน็อค, ขับรถโดยไม่จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และขับรถโดยไม่เสียภาษีประจำปีนั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว จึงขอให้ลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกมาตรา 4 , 43 (4)(5)(8) ,157 , 160 วรรคสาม และขอให้ศาลที่จะยึดจักรยานยนต์ของกลางดังกล่าวด้วย
ซึ่งศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพจำเลยแล้ว จึงพิพากษาว่า จำเลย มีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 21, 42, 43(8), 148 , 160 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความทุกข์ร้อนหรือความปลอดภัยของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 2 เดือน ปรับ 6,000 บาทจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน ปรับ 3,000 บาท ขณะที่จำเลยไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดมาก่อน จึงเห็นควรให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 และริบรถจักรยานยนต์สาธารณะป้ายเหลืองคันหมายเลขทะเบียน 1 กง-5174 กรุงเทพมหานคร ของกลางด้วย