สปีดโบ๊ทนทท.จีน ชนเรือเหล็กกลางทะเลบาดเจ็บ 10 ราย
เรือสปีดโบ๊ทนำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางกลับจากเกาะพีพี ชนเรือเหล็กจอดอยู่ที่บริเวณเกาะรังน้อย ภูเก็ต นักท่องเที่ยว-คนขับเรือบาดเจ็บ 10 ราย
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 9 ก.พ.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเรือสปีดโบ๊ท ซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาจากเกาะพีพี จ.กระบี่ เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับเรือเหล็กที่จอดอยู่บริเวณเกาะรัง อ.เมืองภูเก็ต และได้มีการช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บมาขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น
จากนั้น ร.ต.อ.เอกศักดิ์ ขวัญหวาน รองสารวัตร (สอบสวน) ร้อยเวร สภ.ถลาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยนอุดม ผกก.สภ.ถลาง, พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว, ร.ต.อ.สุชาติ ลือชา รอง สวป.สภ.ถลาง, เจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต, นายวุฒิพงษ์ ดาบเหล็ก รองนายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลป่าคลอก, หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลศรีสุนทร, มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังท่าเรือเทียบเรือดังกล่าว
เมื่อไปถึงบริเวณสะพานท่าเทียบเรือพบ มีพลเมืองดีลำเลียงนักท่องเที่ยวขึ้นมาบริเวณศาลาที่พักริมฝั่ง และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนทยอยนำส่งโรงพยาบาลถลาง และโรงพยาบาลมิชชั่น ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลถลาง พร้อมหน่วยกู้ชีพกู้ภัย ได้เดินทางไปยังเรือที่เกิดเหตุ เนื่องจากยังมีกัปตันเรือ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายอภิชิต รักกันดี อายุ 22 ปี ยังติดอยู่ที่เรือ เนื่องจากขาผิดรูป ต้องทำการดาม จากนั้นจึงน้ำตัวขึ้นฝั่ง และนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป
จากการสอถามทราบว่า เรือสปีดโบ๊ทลำเกิดเหตุ ชื่อเรือ ก.สายน้ำ ได้นำนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 8 ราย พร้อมพนักงานประจำเรือและกัปตัน 2 คน ออกจากท่าเทียบเรือยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ไปท่องเที่ยวยังเกาะพีพี จ.กระบี่ ในลักษณะของการเช่าเหมาลำ ก่อนเกิดเหตุได้นำนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมายัง จ.ภูเก็ต และเมื่อถึงจุดเกิดเหตุบริเวณเกาะรังน้อย อ.เมืองภูเก็ต ได้เกิดเฉี่ยวชนเข้ากับเรือบรรทุก ทราบชื่อ โชคเกรียงไกร ขนาด63.65ตันกรอส ทำให้มีนักท่องเที่ยวได้รับบาด รวมถึงคนประจำเรือด้วย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนของตัวเรือสปีดโบ๊ทได้รับความเสียหายบริเวณหัวเรือกราบขวาเหนือแนวน้ำ และเรือบรรทุกน้ำมันได้รับความเสียหายบริเวณหัวเรือกราบซ้ายเล็กน้อย ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน