สตม.ส่งมอบอุปกรณ์การแพทย์ พร้อมเงินกว่า 5 ล้านบาทให้รพ.กลาง
สตม.ส่งมอบอุปกรณ์การแพทย์ พร้อมเงินกว่า 5 ล้านบาทให้รพ.กลาง
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.62 ที่ ห้องประชุมชั้น 20 โรงพยาบาลกลาง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 พ.ต.อ. โกสิต กาญจนะโกมล ผกก.ฝอ.2บช.ก. และกลุ่มเพื่อนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 ร่วมกันมอบกล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหารและลำไส้ใหญ่จำนวน 2 ชุด รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมเงินกว่า 5 ล้านบาท ที่มาจากการสมทบทุนในโครงการ จัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้รพ.กลาง โดยมีนพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการรพ.กลาง เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยทางเดินอาหารและลำไส้ใหญ่ของรพ.กลาง
พล.ต.ต.กฤษกร กล่าวว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่า มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของประชากรไทย มาตั้งแต่ปี 2541 โดยที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดขณะนี้คือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก ซึ่งพบมาเป็นอันดับ 3 จากเพศชาย รองจากมะเร็งตับและมะเร็งปอด อีกทั้งในส่วนใหญ่เพศหญิง พบเป็นอันดับ 4-5 รองจาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก อีกทั้งยังมีแนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยตัวเลขในปี 2558 มีผู้ป่วยรายใหม่รักษาเพิ่มถึง 406 ราย เป็นผู้ป่วยระยะเริ่มต้นเพียง 18 เปอร์เซ็นต์ หากไม่มีการคัดกรองการตรวจที่ดีก็จะมีผู้ป่วยเพิ่มเกือบ 2 เท่า หรือ 21,188 รายในปี 2568 อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ทำให้ก่อให้เกิดโรคส่วนหนึ่งมากจากการรับประทานอาหารประเภทเนื้อแดง และเนื้อสัตว์แปรรูป น้ำหนักเกิน ขาดการออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ มีประวัติเนื้องอก ที่ผนังลำไส้ใหญ่ และไม่ใช่เนื้อร้าย รวมถึงมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก อย่างไรก็ตามจากสถิติพบว่า โรคนี้จะพบมากในผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-34 ที่นิยมบริโภคเนื้อสัตว์มากกว่าช่วงอายุอื่น และอายุ 13-17 สำหรับผู้ที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป เมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 50-75 ปี ก็จะเสี่ยงเป็นกลุ่มเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ในที่สุด
"จากสถิติที่ผ่านมาพบว่ายังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นประชาชนที่เข้าบริการก็จะต้องรอคิวทางการแพทย์เป็นเวลานาน เฉลี่ยการรอรับบริการแต่ละครั้ง ไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ซึ่งทำให้ประชาชนเสียเวลาในการดำเนินกิจกรรม การทำงานรูปแบบอื่นๆ ส่วนหนึ่งมาจากอุปกรณ์ที่ไม่เพียงพอ ซึ่งทันทีที่ได้รับรู้ปัญหาขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ในระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะผู้ป่วยที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลกลาง ก็รู้สึกเป็นห่วง และคิดว่าคนไทยทุกคน มีโอกาสที่จะช่วยเหลือ เพื่อให้ปัญหาเบาบางลงได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาอุปกรณ์ไม่เพียงพอ หลังพบสถิติผู้ป่วยเข้ารับการคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้น จึงได้ริเริ่มโครงการดังกล่าว เพื่อสมทบทุนเพื่อจัดหาเครื่องมือในแพทย์ โดยรวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธา กลุ่มเพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 เพื่อเป็นการบรรเทาช่วยเหลือถึงแม้จำนวนเงินจะไม่มาก แต่ก็สามารถที่จะจัดหาได้ในเบื้องต้นจำนวน 2 เครื่อง ก็เชื่อว่าจะบรรเทาผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่รอรับการรักษา ในการคัดกรองในเบื้องต้นได้ เพราะหากผู้ป่วยได้รับการคัดกรอง ก็มีโอกาสที่จะรักษา รวมถึงหาทางป้องกันอย่างถูกวิธี และรู้สึกเป็นเกรียติ ที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ และแก้ปัญหา ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้ ไม่เพียงจะทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องรอนาน ยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง ให้ดีขึ้นด้วย" รองผบช.สตม.กล่าว
ขณะเดียวกันวันนี้ถือเป็นวันแห่งความรัก เป็นวันที่แสดงความรู้สึกดีๆให้แก่กัน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน อยากให้มีความรู้สึกว่าตำรวจมีความรักกับประชาชนทุกคน ไม่เพียงเฉพาะเรื่องการป้องปรามด้านอาชญากรรมเท่านั้น แต่ในแง่ของการช่วยเหลือผู้ป่วย โดยมองเรื่องของคุณภาพชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งความรักเป็นเรื่องของการส่งต่อกันได้ด้วย
นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง กล่าวว่า อัตราของผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องวางแผนรับมือระยะยาว ทั้งในส่วนของการป้องกัน และการรักษา ซึ่งหนทางที่ดีที่สุด ก็คือ การคัดกรองโรค ซึ่งที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาล ก็เปิดให้บริการคัดกรอง มาอย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนผู้เข้ารับการคัดกรองที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กล้องส่งตรวจระบบทางเดินอาหารและลำไส้ใหญ่ ที่โรงพยาบาลมีอยู่ ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ อีกทั้งการจัดหา โดยวิธีการของบประมาณ ก็ต้องใช้ระยะเวลานาน ซึ่งไม่ทันต่อความต้องการในการให้บริการ ทั้งนี้ขอขอบคุณทางรองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่มองเห็นปัญหาด้านสาธารณสุข และจัดหากล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหารและลำไส้ใหญ่ มอบให้แก่โรงพยาบาล จำนวน 2 เครื่อง เป็นเงินกว่า 3 ล้าน 6 แสนบาท และยังมอบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้การช่วยเหลือผู้ป่วยวิกฤติ รวมเป็นเงินกว่า 5 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนการให้บริการผู้ป่วย ที่ยังขาดแคลน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่ง ในการแก้ปัญหาโรค ที่คนไทยต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
ภายหลังการรับมอบเครื่องมือแพทย์ในครั้งนี้ ทางพล.ต.ต.กฤษกร และคณะเพื่อนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 ถือโอกาสในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก ได้นำดอกไม้เป็นรูปหัวใจ มอบให้ทางแพทย์ พยาบาล ตลอดจนประชาชนที่มารอรับบริการที่รพ.กลาง พร้อมติดสติ๊กเกอร์หัวใจที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรัก ท่ามกลางบรรยากาศอบอวลไปด้วยรอยยิ้ม