'จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ' ลั่นไม่เสียใจ ที่มาอยู่กับ ทษช.
"จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ" ยุติหาเสียง ยันไร้รอยร้าวลั่นไม่เสียใจ ที่มาอยู่กับ ทษช.
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11.20 น. ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรค ได้ตอบข้อคำถามของผู้สื่อข่าวที่มีต่อสถานการณ์ของพรรคไทยรักษาชาติ ขณะที่ได้แถลงชี้แจงหยุดกิจกรรมหาเสียงพบปะประชาชนของพรรค
โดยผู้สื่อข่าวได้ถามว่า จากกรณีนี้นายณัฐวุฒิและนายจาตุรนต์ จะยังอยู่ในตำแหน่งประธานรณรงค์หาเสียง และประธานยุทธศาตร์พรรคอยู่ใช่หรือไม่ ซึ่งนายณัฐวุฒิ ได้ตอบว่า ตนเป็นสมาชิกพรรคทษช. ที่เดินเข้ามาก็บอกกล่าวกับพี่น้องประชาชนว่าภารกิจของเราเพื่อคือเพื่อนำพาบ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตย และเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับประชาชน ดังนั้น ภารกิจนี้ยังคงอยู่ไม่ว่าตนจะอยู่ในบทบาทหน้าที่ใดก็ตาม จะขอยืนหยัดอยู่กับพรรคจนกว่าสถานการณ์จะได้ข้อยุติ ไม่ว่าจะในทางใดก็ตาม สถานะความเป็นสมาชิกพรรค ตนไม่สามารถที่จะทิ้งไปได้
เมื่อถามว่า การหยุดรณรงค์หาเสียงจะกระทบต่อความนิยมของพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขณะนี้เราดูเรื่องความเหมาะสมของสถานการณ์ ถ้าดูจากข้อกล่าวหา และประเด็นที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การดำเนินการในลักษณะที่ต้องปราศรัยพบกับคนจำนวนมากไม่น่าจะเป็นผลดี และเราน่าจะต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมการชี้แจงในกระบวนการ และขั้นตอนในศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่า สิ่งที่พรรคชี้แจงและรณรงค์กับประชาชนตลอดช่วงที่ผ่านมาก็น่าจะเป็นความเข้าใจต่อประชาชน การจะหยุดพักการจัดชุมนุมปราศรัยไม่น่าจะเสียหายอะไร ขณะนี้ต้องแก้ปัญหาให้ตรงกับปัญหาก่อน และในระหว่างนี้เราจะเลือกใช้วิธีชี้แจง และแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ในกระบวนการยุติธรรม แม้จะไม่ใช่ศาลปกติ การพูดคุยชี้แจงกับประชาชนจะเกิดขึ้นหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีข้อยุติตัดสินแล้ว เราจะไม่ใช้วิธีชี้แจงกับประชาชนระหว่างการพิจารณา
เมื่อถามถึงกรณีที่ไม่ได้ไปร่วมยื่นชื่อแคนดิเดตนายกฯ กับพรรคในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะไปช่วยชี้แจงในเรื่องนี้อย่างไร นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าจะไปในสถานะไหน รวมถึงการได้รับเชิญให้ไปชี้แจงด้วยหรือไม่ แต่จะชี้แจงเท่าที่ทำได้ให้เต็มความสามารถ เช่น การได้รับการหารือ หรือพูดคุยกับกรรมการพรรคหลายท่านหลังวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทราบว่าหลายท่านเจตนาดี มีความบริสุทธิ์ใจที่จะทำในสิ่งที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ซึ่งตรงกับที่กรรมการบริหารพรรคได้ชี้แจงกับประชาชนไปแล้ว ส่วนอื่นๆเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะ เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเป็นส่วนที่ตนไม่สามารถชี้แจงได้ ส่วนการประกาศยุติการปราศรัยเวทีใหญ่นั้นไม่ใช่มติของพรรค แต่เป็นมติของผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้
เมื่อถามถึงเรื่องการตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่เกิดเรื่องมา นายจาตุรนต์ และนายณัฐวุฒิได้หายตัวจากพรรคไปเลย เป็นการสะท้อนถึงการเกิดรอยร้าวในพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ไม่มีรอยร้าวอะไร เมื่อเกิดเรื่องขึ้นเรามีการติดตามสถานการณ์ มีความห่วงใย การตัดสินใจต่างๆ หลังจากนั้นเข้าใจว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคโดยตรง รวมถึงการหาทนาย และผู้ที่จะมาชี้แจง ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรค มาถึงวันนี้มาเพื่อร่วมแก้ปัญหา สิ่งที่เราได้ชี้แจงไปคือการร่วมช่วยในการแก้ปัญหา และยืนยันว่าเราพร้อมที่จะร่วมแก้ปัญหาไปจนถึงที่สุด
เมื่อถามว่า เสียใจไหมที่ตัดสินใจมาอยู่พรรค ทษช. นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สิ่งที่เดินหน้ามาวันนี้มีเจตนาเดียวคือนำพาบ้านเมืองกลับสู่แนวทางประชาธิปไตย สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วตนไม่สามารถย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะมีที่มาและเหตุผลของมันอยู่แล้ว
ขณะที่นายจาตุรนต์กล่าวว่า สิ่งที่เราดำเนินการมาเป็นไปตามที่เราตั้งใจ และได้ประกาศไว้ทุกอย่าง อย่างเต็มความสามารถ และได้รับความเข้าใจจากประชาชนที่เห็นด้วย และเข้าร่วมกับเรา ไม่มีอะไรที่รู้สึกเสียดาย ทั้งนี้ เมื่อเรื่องไปถึงศาลแล้วเราจะไม่แสดงความคิดเห็นนอกศาล ส่วนการแสดงความคิดเห็นอื่นๆ ที่เห็นว่าจำเป็นจะยังดำเนินต่อไป และเมื่อถามว่า เป็นการลอยแพพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ ก็ได้กล่าวติดตลกตอบมาว่า ไม่ได้เป็นการลอยแพ และไม่ใช่การมาพรรคครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้นทุกคนที่ร่วมแถลงก็เดินทางออกจากพรรคไปโดยทันที