กรมป่าไม้เตือนใครเผาป่าคุก 20 ปี ปรับ 2 ล้าน
กรมป่าไม้เตือนใครเผาป่าคุก 20 ปี ปรับ 2 ล้าน ฟ้องแพ่งซ้ำ ชี้ 24 ก.พ.นี้ เป็น “วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า” วันงดเผาป่าทำไร่เลื่อนลอย
เมื่อวันที่ 20 ก.พ.62 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ขณะที่สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ใน 9 จังหวัดภาคเหนือค่อนข้างรุนแรงจากรายงานการปฏิบัติงานดับไฟป่าและปริมาณจุดความร้อนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561- 20 ก.พ. 2562 ใน 4 ภูมิภาค มีเหตุไฟป่าเกิดขึ้น 293 ครั้งมีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 11,846.3 ไร่ โดยพื้นที่เกิดเหตุส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ ที่มีการเฝ้าระวังปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ได้แก่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง น่าน พะเยา แพร่ และจังหวัดตาก มีเหตุ ไฟป่าเกิดขึ้น 98 ครั้ง มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 3,416.8 ไร่ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากไฟป่า และให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ปัญหา
กรมป่าไม้จึงได้ออกประกาศกำหนดมาตรการในการป้องกันไฟป่า เมื่อมีความจำเป็นต้องเผาวัชพืชในที่ดินทำกิน ขอความร่วมมือให้ประชาชนจัดทำแนวกันไฟและ ควบคุมไฟมิให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ และขอให้ประสานงานกับหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าในท้องที่ หรือหน่วยป้องกันรักษาป่า เพื่อจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยควบคุมในการดำเนินการ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนหากพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใดขอให้ช่วยกันดับไฟโดยเร็วเพื่อมิให้เกิดไฟลุกลามขยายเป็นวงกว้าง ทั้งนี้หากกรณีเกิดไฟป่ารุนแรงประชาชน ไม่สามารถเข้าระงับเหตุได้ขอให้ประชาชนรีบแจ้งและประสานงานไปยังศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าท้องที่ หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าท้องที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าท้องที่ที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่ไฟไหม้ป่า หรือสายด่วน กรมป่าไม้ 1310 กด 3 และสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงานระงับเหตุไฟป่าได้ทันสถานการณ์
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า นอกจากมาตรการขอความร่วมมือจากประชาชนข้างต้น ยังมีเรื่องข้อกฎหมายบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิดในการเผาป่าหรือการกระทำใด ๆ ที่ทำให้เกิดไฟป่าซึ่งสร้างความเสียหายแก่ป่าไม้ ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายทางอาญา มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 20 ปี และมีโทษปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-2ล้านบาท หรือมีโทษทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งอีกด้วย
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ที่สำคัญวันที่ 24 ก.พ.นี้ เป็น“วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า” ขอให้เป็นวันงดเผา ทั้งการเผาป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย การกำจัดเศษวัชพืชเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก หรือแม้แต่กระทั่งการจุดไฟเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรเป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดหมอกควันและฝุ่นละอองเป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทำให้ประชาชนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ