'อนาคตใหม่' เสี่ยงยุบพรรค โทษคุก 10 ปี ตัดสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง 20 ปี
"2กูรูกม." อดีตผู้พิพากษาและอาจารย์นิติฯ ชี้ชะตา "อนาคตใหม่" หากผิดจริงเสี่ยงยุบพรรค โทษจำคุก 10 ปี ตัดสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง 20 ปี
นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า Chuchart Srisaeng โดยมีเนื้อหาดังนี้
....พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑
.....มาตรา ๗๓ บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนน ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
..........(๕) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
.....กรณีที่พรรคอนาคตใหม่ลงประวัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ในเวปเพจของพรรคว่า นายธนาธรเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ๒ สมัย ในช่วงปี ๒๕๕๑ ถึง ๒๕๕๔ เพื่อต้องการให้คนทั่วไปทราบว่า นายธนาธรเป็นมีความรู้ความสามารถมากเป็นพิเศษ เพราะได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่อายุ ๓๐ ปีเศษเท่านั้นเอง ซึ่งยังไม่มีใครได้ดำรงตำแหน่งนี้ในขณะอายุ ๓๐ ปีเศษเลย
.....แต่ปรากฎว่าข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จ ความจริงคือนายธนาธรไม่เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเลย
.....ดังนั้นการลงข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าวในเวปเพจของพรรคอนาคตใหม่ จึงเป็นการหลอกลวงและจูงใจให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ จึงเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา ๗๓ (๕)
.....เมื่อเป็นความผิดตามมาตรา ๗๓(๕) ก็มีโทษตามมาตรา ๑๕๙ ที่บัญญัติว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๓ (๓) (๔) หรือ (๕) ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับต้ังแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือท้ังจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี และให้นําความในมาตรา ๑๕๘ วรรคสอง มาใช้บังคับด้วย
.....มาตรา ๑๕๘ วรรคสองบัญญัติว่า ในกรณีที่ศาลมีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้กระทําความผิดตามมาตรา ๗๓ (๑) หรือ (๒) ให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนําจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจํานวนเงินค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนําจับ
.....กล่าวโดยสรุปก็คือ การกระทำความผิดตามมาตรา ๗๓ (๕) มีโทษจำคุก ๑ ปี ถึง ๑๐ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๒๐,๐๐๐ บาท ถึง ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด ๒๐ ปี ทั้งให้ศาลสั่งให้ผู้กระทำความผิดจ่ายสินบนนำจับไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินค่าปรับให้แก่ผู้แจ้งความด้วย
.....กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวนายธนาธรซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ จะอ้างเจ้าหน้าของพรรคกระทำไปโดยเข้าใจผิดไม่ได้ เพราะข้อความดังกล่าวอยู่ในเวปเพจของพรรคอนาคตใหม่ถึง 5 เดือนเศษ
.....ความผิดดังกล่าวเป็นควมผิดอาญาแผ่นดิน ดังนั้นผู้ใดจะไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจก็สามารถกระทำได้ และมีสิทธิที่จะได้รับสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับที่ศาลสั่งปรับผู้กระทำผิดด้วย ผู้ใดอยากได้สินบนนำจับก็ไปแจ้งความได้เลย
ด้าน นายเจษฎ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษา คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า การปล่อยข้อมูลที่ผิดพลาดไว้ในเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่นานถึง 5 เดือน ในแง่กฎหมาย อาจไม่ได้มองว่า ตั้งใจหลอกลวง แต่ความเป็นพรรคที่ชูเรื่องของเทคโนโลยี และหาเสียงในโลกออนไลน์เป็นหลัก เมื่อพบว่า ไม่ถูกต้องก็ควรรีบแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้นานถึง 5 เดือน ซึ่งการอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของทีมงานแต่ทิ้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไว้นานขนาดนี้ก็ เป็นคำแก้ตัวที่อ้างยาก
นายเจษฎ์ กล่าวด้วยว่า ตามกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 73 (5 ) กำหนดห้ามไม่ให้ผู้สมัครจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วยการหลอกลวง ซึ่ง ความผิดดังกล่าวมีโทษถึงขั้นยุบพรรค จึงต้องติดตามดูว่าจะมีผู้ใดไปยื่นคำร้องเรื่องนี้ต่อกกต. หรือไม่ เรื่องนี้จึงอาจถือว่า เป็นมรสุมการเมืองลูกใหม่ของพรรคอนาคตใหม่ และเห็นว่า ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งแต่ละพรรคการเมืองก็ช่วงชิงความได้เปรียบจนขาดความเหมาะสมมากขึ้นเรื่อยๆเช่น มีทั้งการใช้วิธีที่ไม่สมควรการใช้ข้อมูลไม่ถูกต้องไปจนถึงการเคลื่อนไหวปลุกระดมยั่วยุ ซึ่งเป็นการทำลายบรรยากาศการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามอย่างมั่นใจว่า หากไม่มีเหตุชุมนุม ที่ลุกลาม บานปลายก็ไม่มีเหตุที่จะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป