‘คิม’ นั่งรถไฟถึงเวียดนามหวังตามรอยปู่
“คิม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางถึงเวียดนามเพื่อเตรียมประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญคาด หวังเดินตามรอย “คิม อิล ซุง” ปู่ของเขาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งประเทศ เพื่อสืบทอดมรดกทางการเมือง
ขบวนรถไฟพิเศษของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือและคณะที่รวมถึงนายคิม ยอง-ชอล รองประธานคณะกรรมการกลางพรรคคนงานเกาหลี และน.ส.คิม โย-จอง น้องสาว จอดเทียบชานชาลาที่สถานีในเมืองด่งดัง จ.หลั่งเซิน ซึ่งตั้งอยู่เหนือสุดของเวียดนาม เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (26 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังใช้เวลาเดินทางมาราธอนนานถึง 2 วันครึ่ง เป็นระยะทางไกลถึง 4,000 กม.
นายคิมได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ตัวแทนเยาวชนซึ่งมอบช่อดอกไม้ให้ และการตรวจแถวกองทหารเกียรติยศขนาดย่อย ก่อนออกเดินทางต่อด้วยรถยนต์อีกเป็นระยะทาง 170 กม.สู่กรุงฮานอย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดขั้นสูงสุด
ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามสั่งปิดการจราจรบนถนนสายหลักจากจ.หลั่งเซินสู่กรุงฮานอยตลอดทั้งวันนี้
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารประจำตำแหน่งผู้นำสหรัฐ “แอร์ ฟอร์ซ วัน” มีกำหนดถึงกรุงฮานอยในช่วงค่ำวันนี้ โดยคณะผู้ติดตามของนายทรัมป์ รวมไปถึงนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งเยือนกรุงเปียงยางบ่อยครั้งนับตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนเม.ย. ปีที่แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าว 2 คนด้านการวางแผนรักษาความปลอดภัยและการเดินทางของผู้นำเกาหลีเหนือว่า นายคิมจะเลียนแบบแง่มุมการเยือนของนายคิม อิล ซุง ปู่ของเขาด้วยการไปยังสถานที่บางแห่งที่ปู่เคยเยือนมาก่อน แม้แต่ขบวนรถไฟที่เขาใช้เดินทางจากเกาหลีเหนือผ่านจีนไปจนถึงเวียดนามเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตรก็คล้ายกับขบวนรถไฟที่นายคิม อิล ซุง เคยใช้มาก่อน
นายคริสโตเฟอร์ กรีน ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือของกลุ่มอินเตอร์เนชันนัลไครซิสกรุ๊ปมองว่า เป็นการเมืองแบบสืบทอดมรดก เกาหลีเหนือต้องการชูภาพความสำเร็จของนายคิมให้เหมือนปู่ของเขาที่ทำให้ประเทศมีความชอบธรรมในระดับสากลหลังจากตั้งประเทศในปี 2491
แหล่งข่าวเผยว่า นอกจากประชุมสุดยอด (ซัมมิต) กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่กรุงฮานอยในวันที่ 27-28 ก.พ.แล้ว นายคิมจะแวะไปจ.กว่างนิญ ริมฝั่งทางตอนเหนือ เพราะเป็นที่ตั้งของอ่าวฮาลอง หนึ่งในมรดกโลกที่มีคนไปเที่ยวกว่า 12 ล้านคนเมื่อปีก่อน และเป็นสถานที่เดียวกับที่ปู่ของเคยไปในปี 2507 ซึ่งเป็นการเยือนเวียดนามครั้งที่สอง
ขณะเดียวกันคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือจะไปเยี่ยมชมบริษัทวินฟาสต์ สตาร์ทอัพด้านยานยนต์ของเวียดนามในจ.ไฮฟองช่วงบ่ายวันพุธ (27 ก.พ.) แต่ก็อาจเปลี่ยนแปลงแผนได้
รอยเตอร์ระบุว่า หลายฝ่ายมักชูรูปแบบการปรับเปลี่ยนทางเศรษฐกิจของเวียดนามว่าเป็นตัวอย่างที่เกาหลีเหนือสามารถดำเนินรอยตาม แต่การเปลี่ยนแปลงในเวียดนามเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเสรีภาพในระดับปัจเจกชน หากเกาหลีเหนือจะทำตามคงต้องมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ เนื่องจากตระกูลคิมได้รับการยกย่องเชิดชูในฐานะสูงกว่าชาวเกาหลีเหนือโดยทั่วไป