'โฆษก กห.' ยันจำเป็นต้อง 'เกณฑ์ทหาร' รองรับภารกิจด้านความมั่นคง
โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงความจำเป็นการมีทหารเกณฑ์ เพื่อดูแลความมั่นคงหลากหลายมิติ แต่พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะในการยกเลิกเกณฑ์ทหารหรือปรับลดจำนวน พร้อมคาดโทษครูฝึกและผู้บังคับบัญชา หากมีการทำร้ายร่างกายพลทหาร
พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงประเด็นการเกณฑ์ทหาร เนื่องจากมีการนำเรื่องนี้ไปหาเสียง จึงต้องมีการทำความเข้าใจต่อสังคม เพราะเรื่องนี้เป็นมิติของความมั่นคงที่มีผลกระทบรอบด้าน โดยย้ำว่า รัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับ นอกจากนี้ยังมี พ.ร.บ.การรับราชการ พ.ศ.2497 เนื่องจากมิติความมั่นคง ต้องรักษาดุลยภาพ และเป็นพลังอำนาจ แต่หน้าที่ทหารทำตามนโยบายรัฐบาล ใช้กำลังทหารในการป้องกันประเทศ พัฒนาประเทศ และเตรียมกำลังในการดูแลชายแดน ช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติ รวมทั้งภัยคุกคามรูปแบบใหม่ และที่ผ่านมาปรับแก้หลายครั้ง
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีทั้งการเกณฑ์ทหารและสมัครใจ ซึ่งแต่ละปีมีคนสมัครใจมากขึ้นจนถึงปัจจุบันมีถึงร้อยละ 45 ซึ่งการทหารเกณท์ในแต่ละปีจะดูที่ภารกิจ รับประมาณ 70,000 คน
โดยประเทศแถบยุโรปและมหาอำนาจ 39 ประเทศ ยังคงมีการเกณฑ์ทหาร , 13 ประเทศ ยกเลิกไปแล้ว , และอีก 29 ประเทศไม่มีการเกณฑ์ทหาร แต่สำหรับประเทศสิงคโปร์ ผู้ชายทุกคนต้องเป็นทหาร / ส่วนเยอรมณี ฝรั่งเศส อิตาลี กำลังทบทวนกลับมาเกณฑ์ทหารอีกครั้ง
สำหรับประเทศไทย นอกจากการเกณฑ์ทหารและสมัครใจ ก็ยังมีระบบ นักศึกษาวิชาทหาร ที่หากเรียนครบตามหลักสูตร ก็ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ขณะเดียวกัน ทหารเกณฑ์ที่เข้าประจำการ จะได้รับการดูแลคุณภาพชีวิตและให้ศึกษาเพิ่มเติม การฝึกวิชาชีพ และมีงานทำเมื่อพ้นจากการเกณฑ์ทหารแล้ว
สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ โดยเฉพาะการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หรือการปรับลดจำนวนนั้น พลโท คงชีพ กล่าวว่า กองทัพรับฟังทุกข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ กองทัพเป็นกองทัพของประชาชน และเป็นกลไกของรัฐบาลในการดูแลความมั่นคง เมื่อรัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับลดคน หากเห็นว่ามีความจำเป็น ก็พร้อมที่จะปรับลดแต่ต้องดูหลายมิติ จึงต้องศึกษาและทำความเข้าใจร่วมกันอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงที่กระทบต่อความมั่นคงหรือกระทบต่อการดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติ ทั้งนี้หากกองทัพมีการปรับลดกำลังพล ก็จำเป็นต้องมีเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ พร้อมเปรียบเทียบกองทัพกับอุตสาหกรรม หากมีการปรับลดกำลังคนแล้ว ก็จะต้องมีการเพิ่มเทคโนโลยีเข้ามาทดแทน
ส่วนประเด็นทหารรับใช้บ้านนาย วันนี้ถือว่าน้อยมาก หรือเกือบจะไม่มี ซึ่งต้องคำนึงถึงเกียรติและศักดิ์ศรีของทหารกองประจำการ ดังนั้นต้องหลีกเลี่ยงการใช้ทหารกองประจำการในลักษณะที่ไม่เหมาะสม / เช่นเดียวกับประเด็นการซ้อมพลทหาร ที่ปัจจุบันมีนโยบายชัดเจน หากมีรุ่นพี่หรือครูฝึกบางคน กระทำเรื่องนี้ จะถูกลงโทษถึงขั้นต้องออกจากราชการ และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นก็จะต้องรับผิดชอบถึงขั้นย้ายออกจากหน่วย ดังนั้นเชื่อว่าปัญหาวันนี้น้อยลงมาก ส่วนที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย เป็นคลิปเก่าที่สร้างข้อมูลบิดเบือนและสร้างภาพลักษณ์ไม่ดีกับทหาร ดังนั้นประเด็นที่เกี่ยวกับทหารเกณฑ์ จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกัน ไม่อยากให้ไปพูดลอยๆ