เร่งล่าสามี คดีฆ่าฝังเมียภายในบ้านหรู คาดหนีกบดานภูเก็ต

จากกรณีพบศพนางอิษฎา อุส่าห์เพียร อายุ 35 ปี ถูกฆ่าฝั่งดินภายในบ้านแห่งหนึ่ง ย่านถนนประชาอุทิศ ซอย 86 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า เหยื่อได้เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน โดยพบบาดแผลถูกยิงหลังศีรษะ มีแผลฉกรรจ์คล้ายถูกแทงด้วยของมีคมที่บริเวณด้านหลัง สภาพศพเริ่มเน่า โดยตำรวจสน.ทุ่งครุ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามทีได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ ( 27​ กุมภาพันธ์2562) พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ทุ่งครุ เปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานสอบกำลังอยู่ในระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ. เพื่อยืนยันอัตลักษณ์ตัวตน นางอิษฎา อุส่าห์เพียร อายุ 35 ปี ผู้ตาย รวมถึงผลตรวจบาดแผลตามร่างกาย เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากศพที่พบ ณ จุดเกิดเหตุ เริ่มกลายสภาพไปมากแล้ว เพราะเสียชีวิตมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้การพิสูจน์ทราบต้องใช้เวลานานกว่าปกติ คาดอาจจะต้องกินเวลาไปอีก 3-4 วัน จากนั้นจึงจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงผลตรวจไปยื่นขออนุมัติหมายจับสามีจากศาลต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางไปเป็นประธานในการหารือร่วมกับชุดคลี่คลายคดีที่ สน.ทุ่งครุ ได้มีการสั่งการให้ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8 สนธิกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งครุ ดำเนินการไล่กล้องวงจรปิดในละเเวกที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมมาสนับสนุนข้อสันนิษฐานจากประสบการณ์ของ ผบ.ตร. ซึ่งเชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่น่าจะมีเพียงแค่คนเดียว

สำหรับผลการตรวจสอบพบว่าขณะนี้สามีซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 น่าจะเดินทางไปกบดานอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ส่วนประเด็นผู้ร่วมก่อเหตุนั้น ชุดคลี่คลายคดีเชื่อว่า น่าจะมีมากกว่า 2 คนจริงตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ให้แนวทางเอาไว้ แต่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องในขั้นตอนการลงมือสังหารผู้ตาย แต่อาจเข้ามาเกี่ยวข้องตรงขั้นตอนการซ่อนเร้นทำลายศพ ในฐานะผู้รับจ้าง คนงานขนทราย คนงานขุดดินบริเวณหลุมฝังศพ โดยที่ไม่ทราบว่า ผู้ต้องสงสัยจะเตรียมหลุมดังกล่าวเอาไว้ฝังร่างของผู้ตาย สำหรับประเด็นนี้ทางเจ้าหน้าที่จะช่วยกันติดตามหาตัวคนงานเหล่านั้นมาทำการสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป