ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองลุยจับผับกลางเมืองสระบุรี หลังผู้ปกครองร้องเรียนลูกสาวไปเที่ยวกลับมาบ้านเจอยาเคในกระเป๋า ระบุปล่อยเด็กเข้าไปมั่วสุมเสพยาทุกคืน
เมื่อเวลา 01.40 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ศูนย์อำนวยการประสานกำกับติดตามการปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558(ศอ.กต.) โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นำโดย นายแสงประทีป โกมลบุตร ผู้ตรวจราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วย ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับ สืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง นายนฤนาท เมืองแสน ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสระบุรี ทหารกองทัพภาคที่ 1 กรมควบคุมโรค กรมสรรพสามิต และสำนักงาน ปปส. ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุม ร้าน “A JAX สระบุรี” ตั้งอยู่ถนนมิตรภาพ ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พบเป็นสถานบริการ ที่ตั้งอยู่นอกโซนนิ่ง ซึ่งมี นายกมล อรุณสันติโรจน์ อายุ 74 ปี เป็นผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ
การปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่าร้าน A JAX สระบุรี มีการอนุญาตหรือยินยอมให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น ปล่อยปละละเลยให้ผู้เข้าใช้บริการเสพสารเสพติดภายในร้าน โดยมีเอเย่นต์ค้ายาเสพติดแฝงตัวอยู่ภายในร้าน และเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง หน.คสช.ที่ 22/2558 นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครองเด็ก ร้องเรียนผ่านเพจปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองด้วยว่า ลูกสาวไปเที่ยวผับ กลับมาบ้าน เจอยาเคในกระเป๋ากางเกง โดยผับ A JAX สระบุรี ปล่อยให้เด็กเข้าใช้บริการ มั่วสุมเสพยาทุกคืน
จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า สถานบริการ A JAX มักเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดเป็นประจำ ปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการซื้อ ขาย เสพยาเสพติดภายในสถานบริการ เช่น ในห้องน้ำภายในสถานบริการ โดยเมื่อผู้ใช้บริการเสพยาเสร็จเรียบร้อย พนักงานทำความสะอาดจะรีบทำความสะอาดและกำจัดอุปกรณ์การเสพที่ตกอยู่ตามพื้นทิ้งทันที เพื่อไม่ให้เป็นหลักฐานว่าสถานบริการรู้เห็นกับผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ ก่อนเข้าจับกุม เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง (ชุดสายลับ) ได้แฝงตัวเป็นนักเที่ยวเข้าทำการสืบสวน เมื่อเกินเวลา 01.00 น. ซึ่งเลยเวลาเปิดทำการตามกฎหมายของสถานบริการดังกล่าวไปแล้วครึ่งชั่วโมง ก็พบว่าสถานบริการยังคงไม่มีทีท่าที่จะเช็คบิลปิดทำการแต่อย่างใด โดยนักเที่ยวยังคงดื่มกินและเต้นกันอย่างเมามันตามจังหวะดนตรีของทางร้าน ขณะเดียวกันยังพบว่าร้านยังคงจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปกติ แม้ว่าจะเลยเวลาเปิดทำการตามกฎหมายไปแล้วก็ตาม
ต่อมาสายลับจึงให้สัญญาณแก่ชุดจับกุมเข้าดำเนินการตรวจสอบจับกุม เมื่อกำลังของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางมาถึง พบว่าสถานบริการ A JAX ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน ดื่มกิน อยู่ภายในร้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงแสดงตัวขอตรวจสอบ โดยให้ปิดเสียงดนตรี และเปิดไฟภายในร้าน ทำให้นักเที่ยวต่างแตกตื่น นักเที่ยวที่พกยาเสพติดก็โยนยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพลงพื้นเกลื่อนเต็มไปหมด ซึ่งมีทั้ง ยาไอซ์ และยาเคตามีน กระทั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ตรวจค้นตัวนักเที่ยวและพนักงานร้าน พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด สิ่งเทียมอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 2 นัด รวมทั้งยาเสพติด ยาไอซ์ และยาเค เป็นจำนวนมาก
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนักเที่ยวแยกชาย-หญิง เพื่อตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ผลการตรวจสอบพบว่า นักเที่ยวที่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง จำนวน 53 คน เป็นชาย 29 คน เป็นหญิง 24 คน พบเยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 35 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 14 คน โดยมีอายุต่ำสุดเพียง 16 ปี เท่านั้น และพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 23 คน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้แจ้งข้อหาแก่ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ A JAX ประกอบด้วย 1.เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 3.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ 4.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ 5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 6.ไม่จัดทำบัตรประวัติพนักงานให้เป็นไปตามกฎกระทรวง 7.ยินยอม หรือปล่อยปละละเลยให้มีการนำอาวุธปืนเข้าไปในสถานบริการ 8.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้ไม่มีเอกสารราชการซึ่งมีภาพถ่ายและระบุอายุเข้าไปในสถานบริการ 9.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และ 10. จำหน่ายสุราให้กับเด็ก
นายรณรงค์ กล่าวว่า กรมการปกครองจะกวดขัน จับกุม ปราบปราม สถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการสถานบริการว่า ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีหน้าที่ต้องระมัดระวังไม่ให้มีเด็กเข้าไปใช้บริการ เปิดทำการในเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่จำหน่ายสุราเกินเวลา และเรื่องยาเสพติด ซึ่งหลังจากนี้ นายอำเภอเมืองสระบุรี จะได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตสถานบริการแห่งนี้ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ต่อไป