วัดขุมกำลัง ‘อินเดีย-ปากีสถาน’
สื่อต่างประเทศเปรียบเทียบขุมกำลังกองทัพของอินเดียและปากีสถาน ซึ่งขณะนี้เผชิญความตึงเครียดหนักขึ้นเรื่อย ๆ หลังกองทัพปากีสถานสอยเครื่องบินรบอินเดียร่วง 2 ลำและกักตัวนักบินอินเดียไว้ 1 คน
เว็บไซต์อัลจาซีรา รายงานว่า นับตั้งแต่อินเดียและปากีสถานได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 2490 ทั้ง 2 ประเทศยังคงเป็นปรปักษ์กันและต่างฝ่ายต่างเดินหน้าเสริมแสนยานุภาพกองทัพของตนมาโดยตลอด รวมทั้งทำสงครามกันมาแล้ว 3 ครั้งจากข้อพิพาทดินแดนแคชเมียร์ที่ยังคงสร้างความขัดแย้งจนถึงปัจจุบัน
งบการทหาร
สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ (ไอไอเอสเอส) ระบุว่า ในปีที่แล้ว อินเดียจัดสรรงบประมาณจำนวน 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 2.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพื่อสนับสนุนกองกำลังทหารที่ประจำการอยู่ 1.4 ล้านนาย
ขณะที่ปากีสถานจัดสรรงบประมาณให้กองทัพ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.6% ของจีดีพี เพื่อสนับสนุนกองกำลังทหารของตนราว 6.54 แสนนาย และยังได้รับเงินช่วยเหลือด้านการทหารจากต่างชาติอีก 100 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
สถาบันวิจัยเพื่อสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม หรือ “ซิปรี” (SIPRI) คาดว่า ระหว่างปี 2536-2549 รัฐบาลปากีสถานใช้งบประมาณกว่า 20% ของงบประมาณรายปีทั้งหมดไปกับกองทัพ ส่วนในปี 2560 ปากีสถานใช้งบด้านการทหาร 16.7% ของงบประมาณรัฐทั้งหมด
ส่วนอินเดียใช้งบประมาณด้านกองทัพในสัดส่วนไม่ถึง 12% ของงบประมาณทั้งหมดในช่วงระหว่างปี 2536-2549 และในปี 2560 งบประมาณกองทัพของอินเดียอยู่ที่ 9.1% ของงบประมาณรัฐบาลทั้งหมด
ขีปนาวุธ-อาวุธนิวเคลียร์
ไอไอเอสเอส ระบุว่า อินเดียมีขีปนาวุธที่ใช้งานได้อยู่ 9 ประเภทซึ่งรวมถึง “Agni-3” ที่มีพิสัยการยิง 3,000-5,000 กม. ส่วนปากีสถาน แม้ไม่มีข้อมูลตัวเลขเจาะจง แต่ทำโครงการขีปนาวุธด้วยความช่วยเหลือจากจีน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธระยะสั้นถึงกลางที่สามารถโจมตีพื้นที่ทุกจุดของอินเดีย ไอไอเอสเอส ระบุว่า ขีปนาวุธรุ่น “Shaheen 2” ของปากีสถานมีพิสัยการยิงไกลที่สุดมากถึง 2,000 กม.
ส่วนเรื่องขุมกำลังด้านนิวเคลียร์ ข้อมูลของซิปรีระบุว่า ปากีสถานมีหัวรบนิวเคลียร์ 140-150 ลูก ขณะที่อินเดียมีหัวรบนิวเคลียร์ 130-140 ลูก
กองทัพบก
ข้อมูลของไอไอเอสเอส ชี้ว่า อินเดียมีกองทัพขนาดใหญ่ที่มีทหารราว 1.2 ล้านนาย พร้อมด้วยรถถัง 3,565 คัน รถทหารราบ 3,100 คัน รถหุ้มเกราะ 336 คัน และปืนใหญ่อีก 9,719 กระบอก
ขณะที่ปากีสถานมีกองทัพขนาดเล็กกว่า โดยมีกำลังพล 5.6 แสนนาย พร้อมด้วยรถถัง 2,496 คัน รถหุ้มเกราะ 1,605 คัน และปืนใหญ่อีก 4,472 กระบอก ซึ่งรวมถึงปืนใหญ่อัตตาจร 375 กระบอก
กองทัพอากาศ
ด้วยจำนวนทหารอากาศ 1.27 แสนนายและเครื่องบินขับไล่ 814 ลำ กองทัพอากาศของอินเดียจึงมีขนาดใหญ่กว่าปากีสถานอยู่มาก แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับฝูงบินรบ
กระทรวงกลาโหมอินเดียมีแผนที่จะซื้อเครื่องบินรบ 42 ลำและอากาศยานทางทหารอีกราว 750 ลำ เพื่อป้องกันการโจมตีจาก 2 เพื่อนบ้านคู่อริอย่างจีนและปากีสถาน
ทางการอินเดียเผยว่า เนื่องจากเครื่องบินรบรัสเซียรุ่น MiG-21 ที่ประจำการครั้งแรกตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 60 กำลังจะปลดประจำการในเร็ว ๆ นี้ อินเดียจึงจำเป็นต้องมีฝูงบินรบ 22 ลำภายในปี 2575
ส่วนปากีสถานมีเครื่องบินขับไล่ 425 ลำ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินจีนรุ่น F-7PG และเครื่องบินอเมริกันรุ่น F-16 Fighting Falcon นอกจากนั้น ไอไอเอสเอส ระบุว่า ปากีสถานยังมีเครื่องบินเตือนภัยและควบคุมทางอากาศ 7 ลำ หรือมากกว่าอินเดีย 3 ลำ
กองทัพเรือ
กองทัพเรือของอินเดียมีเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ เรือดำน้ำ 16 ลำ เรือพิฆาต 14 ลำ เรือรบขนาดกลาง 13 ลำ เรือตรวจการชายฝั่ง 106 ลำ และเรือบรรทุกเครื่องบินที่ออกรบได้อีก 75 ลำ ส่วนกำลังพลกองทัพเรืออินเดียมีอยู่ 6.77 หมื่นนาย ซึ่งรวมถึงทหารเรือและเจ้าหน้าที่การบินนาวี
ขณะที่ปากีสถานซึ่งมีพื้นที่แนวชายฝั่งน้อยกว่าอินเดียอยู่มาก มีเรือรบขนาดกลาง 9 ลำ เรือดำน้ำ 8 ลำ เรือตรวจการชายฝั่ง 17 ลำ และเรือบรรทุกเครื่องบินที่ออกรบได้อีก 8 ลำ