ปราบบริษัททัวร์ หลอกขายทัวร์ตามบูธแล้วเชิดเงินหนี ตกเป็นเหยื่อ100ราย

ที่ห้องประชุม ศปก.ตม.2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 3 มี.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.พร้อมด้วยนายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำรวจ บช.สตม. ตำรวจ บช.ทท. และตำรวจชุด ศปอส.ตร. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายธีรวุฒิ ชังคะนาค ผู้ต้องหาหลอกลวงขายโปรแกรมทัวร์ตามบูธจัดงานแสดง แล้วเชิดเงินหลบหนี มีผู้เสียหายกว่า 100 รายความเสียหายกว่า 450,000 บาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ศปอส.ตร.) และตำรวจบช.ทท.ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยรวม 11 คน ได้ซื้อโปรแกรมทัวร์เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล จำนวน 4 วัน 3 คืน มีกำหนดเดินทาง ในวันที่ 29 ธันวาคม 2561 1 มกราคม 2562 กับทางบริษัท ทัวร์แห่งหนึ่ง ที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว โดยมีนางดาริณี นครไทย และนายธีรวุฒิ ชังคะนาค กรรมการผู้มีอำนาจ จากงานไทยเที่ยวไทยจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม 2561 เป็นเงินจำนวน 90,600 บาท

ต่อมาในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ทางบริษัท ได้โทรมาแจ้งว่าขอยกเลิกการเดินทาง โดยอ้างว่าบริษัท ขาดสภาพคล่องทางการเงินจึงไม่มีเงินจ่ายค่ามัดจำกับทางโรงแรมที่จองไว้ จึงไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวในวันและเวลาดังกล่าวได้ เมื่อทางผู้เสียหายทวงถามเพื่อจะขอเงินค่าซื้อโปรแกรมการทัวร์คืนกลับถูกปฏิเสธและบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา และปิดบริษัทหลบหนีไป จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กับสน.หนองจอกเพื่อดำเนินคดีตายกฎหมาย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ศปอส.ตร.) และตำรวจท่องเที่ยว สืบสวนกรณีดังกล่าวทราบว่าบริษัท ดังกล่าว ได้โฆษณาขายโปรแกรมทัวร์ในประเทศไทยโดยการออกบูธในงานไทยเที่ยวไทย ซึ่งจัดขึ้นศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ อิมแพคเมืองทองธานี และห้างโลตัส จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประจำในราคาถูก โดยการจองโปรแกรมทัวร์มีทั้งแบบกำหนดวันและไม่กำหนดวันเดินทาง จึงทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมีนักท่องเที่ยวหลงเชื่อจำนวนมากซื้อโปรแกรมทัวร์ และเมื่อใกล้ถึงกำหนดวันเดินทางถูกแจ้งยกเลิก และบ่ายเบี่ยงปฏิเสธการคืนเงินเช่นเดียวกันมากกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 450,000 บาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ต่อมาทางพนักงานสอบสวน สน.หนองจอกได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองราย ต่อศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันประกอบธรุกิจนำเที่ยว กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หรือนักท่องเที่ยว ไม่ปฏิบัติตามการโฆษณาหรือชี้ชวนเกี่ยวกับรายการนำเที่ยว" กระทั่งมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2562 ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ติดตามจับกุมตัวนายธีรวุฒิ ชังคะนาค ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนสน.หนองจอกเพื่อดำเนินคดี ส่วนนางดาริณี อยู่ระหว่างติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ต่อไป สำหรับหากมีผู้เสียหายรายใดถูกบริษัทดังกล่าวหลอกลวงสามารถติดต่อทางตำรวจ บช.ทท.ได้ทันที