วันชี้ชะตา 'ทษช.' กองทัพนักข่าว-ตร.แน่นศาล
ศาลรธน.คึกคักตั้งแต่เช้า กองทัพนักข่าวมาเต็มพื้นที่ ด้านตำรวจกระจายตั้งจุดตรวจสกัด 4 ทางเข้า-ออกศูนย์ราชการ ติดป้ายพื้นที่ควบคุมห้ามชุมนุมในรัศมี 50 เมตร แต่ยังไร้เงามวลชน
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กรณีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 เนื่องจากกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยกำลังตำรวจนครบาล 1,500 นาย ได้กระจายเข้าตั้งจุดดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบและพื้นที่ชั้นในของศูนย์ราชการอาคาร A ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด ศาลล้มละลาย ศาลแขวงดอนเมือง และศาลทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจตราทางเข้า-ออกศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะรวม 4 จุด นอกจากนี้ยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบกระจายตัวเดินปะปนกับข้าราชการ และประชาชนที่มาใช้บริการ ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนพื้นที่รอบนอกอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดโดยนำมาตรการณ์รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ห้ามผู้ใดชุมนุมในรัศมี 50 เมตร รอบที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิด จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนบริเวณสระน้ำด้านข้างศาลฎีกา เจ้าหน้าที่ได้สูบน้ำจนแห้ง ซึ่งคาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ ทางตำรวจยังได้ประสานไปยังการไฟฟ้านครหลวง นำรถสำรองไฟฟ้ามาจอดใต้อาคารศาลรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นมาตรการรองรับกรณีไฟฟ้าดับ สำหรับผู้สื่อข่าวได้ทยอยเดินทางมาลงทะเบียนแลกบัตรเพื่อรอรายงานข่าวการอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคตั้งแต่ช่วงเช้า เป็นผลให้ห้องพักผู้สื่อข่าวเต็มไปด้วยสื่อมวลชนและช่างภาพ แต่ในส่วนของจอมอนิเตอร์ซึ่งจัดเตรียมไว้ให้ประชาชนได้มีโอกาสรับฟังคำวินิจฉัยยังคงว่างเปล่า ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีมวลชนกลุ่มใดเดินทางมาศาล