"พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ" แถลงรวบ 3 เอเย่นค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 7 มีนาคม 2562 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 และพล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบช.1 พ.ต.อ.ชาลี เดชศิริ ผกก.สภ.บ้านหมอ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บ้านหมอ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายธวัช มีชอบ หรือบี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.8 ต.บางโขมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี นายนรินทร์ ละอองสินธ์ หรือกอล์ฟ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/8 ม.10 ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี นายนิพัทน์ วราพุฒ หรือใหญ่ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.2 ต.บางโขมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี พร้อมของกลางยาบ้าประมาณ 1,214,000 เม็ด โดยจับกุมนายธวัช และนายนรินทร์ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 70 ม.8 ต.บางโขมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ส่วนนายนิพัทน์ จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 5 ม.2 ต.บางโขมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการขยายผลให้ทราบว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยนำเอามาตรการการฟอกเงิน และยึดทรัพย์มาใช้ ได้ดำเนินการอย่างจริงจังในการสกัดกั้นไม่ให้มียาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ จนกระทั้งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้าดังกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ได้ดำเนินการตามโครงการปักกลด ของ ตำรวจภูธรภาค 1 เมื่อลงพื้นที่ดำเนินการตามโครงการฯได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า มีผู้เสพและลักลอบจำหน่ายยาเสพติด(ยาบ้า)ในพื้นที่ ที่ผ่านมา สภ.บ้านหมอ สามารถจับกุมผู้เสพยาเสพติดได้จำนวน 30 คน และมีการขยายผล ตามนโยบาย 1 โรงพัก 1 ขยายผล 1 ยึดทรัพย์ จนสามารถจับกุมผู้จำหน่ายรายย่อยและผู้จำหน่ายรายใหญ่ได้
ส่วนทางด้าน พ.ต.อ.ชาลี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562 ตำรวจชุดสืบสวนได้จับกุมตัวนายธวัช มีชอบหรือบี ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ขณะอยู่ที่บริเวณบ้านเลขที่ 70 ม.8 บ.บางโขมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จากนั้นพบนายนรินทร์ ละอองสินธ์ หรือก๊อบ ขับรถจักรยานยนต์ มาจอดที่หน้าบ้านของนายธวัช จึงได้ควบคุมตัวไว้และทำการตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 100 เม็ด กำอยู่ในมือของนายนรินทร์ จากการสารภาพของนายนรินทร์ รับว่าจะนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้า โดยได้ซื้อยาบ้ามาจากนายใหญ่ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง แต่นายนรินทร์ต้องการช่วยเหลือทางราชการและต้องการเหตุบรรเทาโทษ จึงได้นำพาตำรวจไปยังบ้านของนายใหญ่ ทราบชื่อภายหลังคือ นายนิพัทน์ วราพุฒ หรือใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าของยาบ้า เมื่อไปถึงหน้าบ้านพบนายนิพัทน์ ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน นายนรินทร์จึงชี้ยืนยันว่านี่คือนายนิพัทน์ หรือใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่พร้อมยื่นบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เมื่อนายนิพัทน์เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีท่าทางพิรุธ ตกใจ และพยายามเดินหลบหนีเข้าไปในบ้านแต่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมยินยอมให้ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางอยู่ในห้องนอน
จากการสอบถามรับว่าเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นายธงชัย ผณินทร หรือธง สั่งการจากต่างประเทศ ให้นายนิพัทน์ไปรับยา จำนวนประมาณ 2,2000,000 เม็ด นำมาเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อให้นายนทีนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้า แต่ละครั้งนำยาบ้าไปส่งจะได้รับเงินสดจากนายธงชัย โดยได้เงินมาแล้วประมาณ 50,000 บาท และยังรับอีกว่าได้รับฝากยาบ้า และส่งยาบ้าจากนายธงชัยมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง รวมยาบ้าประมาณ 5,800,000 เม็ด
ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเสพยาบ้ากับนายธวัช ส่วนนายนรินทร์ แจ้งข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้า และนายนิพัทน์แจ้งข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรค์ ซึ่งมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิเกิน 20 กรัม จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะทำการสืบสวนขยายผลและดำเนินคดีกับ ผู้ร่วมขบวนการภายในเครือข่ายยาเสพติดนี้ต่อไป