'ธนาธร' ประกาศพา 'ทักษิณ' กลับบ้าน พร้อมรื้อคดีใหม่

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์บางกอกโพสต์ ออนไลน์ ประเด็นหลักคือการโชว์วิสัยทัศน์สร้างประเทศให้เป็นประชาธิปไตยปลอดอำนาจทหาร แก้ปัญหาการคอร์รัปชันในแวดวงธุรกิจและแวดวงการเมือง และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนในไทย ที่ถือเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำเรื่องนี้มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลกให้หมดไป

ส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ นายธนาธรเรียกร้องความเป็นธรรมให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่ปัจจุบันตกเป็นผู้ต้องหาในคดีคอร์รัปชันหลายคดี โดยระบุว่า “คดีของคุณทักษิณเป็นคดีอาญาที่ฟ้องร้องในสมัยรัฐบาลทหาร เราจึงขอเสนอให้คืนความยุติธรรมให้เขา นำตัวคุณทักษิณกลับมา มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เขาต้องรับผลที่เกิดขึ้น ซึ่งผมคิดว่าเป็นทางออกเดียว และผู้นำทั้งกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดงต้องรับผิดชอบ ”

ต่อคำถามที่ว่า เขาจะทำอย่างไร หาทางถอนคดีความและฟ้องด้วยข้อหาใหม่ที่มีโทษน้อยลงเพื่อเป็นการต้อนรับนายทักษิณหรือไม่ นายธนาธร ตอบว่า “ไม่” แต่จะรื้อคดีต่างๆ พิจารณาคดีต่างๆใหม่โดยผู้พิพากษาต้องมีความเป็นกลาง ไม่เหมือนที่ผ่านมา ที่กระบวนการยุติธรรมถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อกำจัดทักษิณ และคุณทักษิณมีสิทธิที่จะต่อสู้คดีภายใต้กระบวนการของศาลที่มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม

“ความแตกแยกแบ่งเป็นกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดงดำเนินมานาน 12 ปีแล้ว เป็นความแตกแยกที่นับวันจะยิ่งร้าวลึก เราเชื่อว่าเกิดจากการชี้นำแบบผิดๆ เราเชื่อมั่นในประชาชน และไม่ได้คำนึงว่าพวกเขาเป็นกลุ่มเสื้อสีใด เราควรจะรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อต่อสู้กับอำนาจการปกครองของทหาร” นายธนาธร กล่าว

ส่วนกรณีที่เจอข้อหาทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ นายธนาธร บอกว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลเลยสักนิด เพราะข้อมูลที่เขาไลฟ์สดเป็นข้อมูลที่ตรวจสอบได้ ไม่ใช่ข้อมูลลวง หรือข้อมูลเท็จ เป็นข้อมูลสาธารณะที่บรรดาสำนักข่าวต่างๆเผยแพร่ และสอง การไลฟ์ของเขาไม่ได้ทำให้เกิดภาวะแตกตื่นในสังคม ที่สำคัญเขามั่นใจว่า การตั้งข้อกล่าวหาเขาเรื่องนี้มีแรงจูงใจทางการเมือง และเขามั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้ว ข้อกล่าวหานี้จะถูกถอนออกไป

นอกจากนี้ นายธนาธรยังกล่าวว่า หากได้เป็นรัฐบาลเขาจะลดงบประมาณด้านกลาโหมและลดจำนวนบรรดานายทหารระดับนายพล ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ขยายระบบสวัสดิการประชาชนให้ครอบคลุม

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังระบุว่า ภารกิจแรกของพรรคเมื่อได้เป็นรัฐบาลคือจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนที่มีอำนาจเหนือกองทัพ ลดขนาดกองทัพลงครึ่งหนึ่ง สร้างความโปร่งใสด้านการใช้จ่ายงบประมาณในกองทัพ และยุติระบบการเกณฑ์ทหาร

“ทุกวันนี้ เรามีนายพล 1,400 คน มากกว่าเกือบทุกประเทศในโลก เราต้องการลดขนาดกองทัพลงครึ่งหนึ่ง จากปัจจุบันที่มีบุคคลากรในกองทัพประมาณเกือบ 4 แสนคน และเราต้องการทำให้การใช้จ่ายของกลาโหมมีความโปร่งใส อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลพลเรือน และท้ายที่สุด เราจะยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหาร”นายธนาธร กล่าว