ศาลพิพากษา 'เปรมชัย' สั่งจำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา
ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาคดีเสือดำ! สั่งจำคุก "เปรมชัย" เจ้าสัวอิตาเลียนไทย เป็นเวลา 16 เดือน ไม่รอลงอาญา
เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พิพากษาคดีที่อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 ใน 6 ข้อหาประกอบด้วยข้อหา 1.ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต5.ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และ 6.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
ศาลพิพากษา จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย กรรณสูต จำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา
จำเลยที่ 2 นางยงค์ โดดเครือ จำคุก 13 เดือน
จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน จำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญามีกำหนด 2 ปี
จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ จำคุก 2 ปี 17 เดือน
ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งให้จำเลยที่ 1- 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลให้ประกันจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 คนละ 400,000 บาท จำเลยที่ 3 รอการลงโทษ ปรับ 10,000 บาท จำเลยที่ 4 ประกัน 500,000 บาท
รายละเอียดคำพิพากษา
จำเลยที่ 1 ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาเป็นผู้สนับสนุุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าจำคุก 8 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(ไก่ฟ้าหลังเทา)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 16 เดือน ยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือดำ)
จำเลยที่ 2 ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 3 เดือน ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือดำ)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 13 เดือน ยกฟ้องข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสวงวนแห่งชาติ
จำเลยที่ 3 ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือดำ) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ยกฟ้องข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ข้อหาร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร
จำเลยที่4 ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 3เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือดำ) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4เดือน ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาพยายามล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธ์สตว์ป่าจำคุก 4 เดือน ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สีตว์ป่าจำคุก1 ปี ข้อหาเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชขาติ จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี 17 เดือน ไม่มีข้อหาใดยกฟ้อง
ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งให้จำเลยที่ 1 และที่4ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 2 ล.บ. พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี รับแต่วันที่ 4ก.พ.2561 เป็นต้นไปจนะกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง(กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช)
ลำดับคดีเสือดำ
นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2561 พร้อมซากเสือดำ และซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ถูกชำแหละไม่ไกลจากจุดที่นายเปรมชัย และพวกตั้งแคมป์อยู่ประมาณ 300 เมตร ในบริเวณลำห้วยปะชิ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี
จากนั้นมีการขยายผลโดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้าค้นบ้านพักนายเปรมชัย พบอาวุธปืน 43 กระบอก มีไรเฟิลติดลำกล้อง โดยนำไปตรวจหลักฐานการครอบครอง
ต่อมาอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ได้ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย , นางคณิตดา กรรณสูตร อายุ 64 ปี ภรรยาของนายเปรมชัย และน.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 71 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้าง)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ฯ
นอกจากนี้ในการสืบสวนปรากฏพบคลิปเสียงเชิงต่อรองสิ่งของเพื่อแลกกับการปล่อยตัวและไม่เอาผิด สืบสวนภายหลังว่าเป็นเสียงของนายยงค์ โดดเครือจากหลักฐานที่ปรากฏ อัยการศาลอาญา แผนกคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 สั่งฟ้อง นายเปรมชัย และนายยงค์ในข้อหาพยายามติดสินบนเจ้าพนักงานและศาลได้ประทับคำร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
หลังจากอัยการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิในคดีล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วทางศาลได้นัดสืบพยานโจทก์เป็นฝ่ายแรก รวม 10 นัด คือวันที่ 27-28-29-30 พ.ย. วันที่ 6-7 ธ.ค. วันที่ 11-12-13 ธ.ค.และวันที่18 ธ.ค.2561 และนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย 6 นัด คือวันที่ 19-20-21-25-26-27 ธ.ค.2561 แต่สุดท้ายแล้วการสืบพยานฝ่ายจำเลยก็จบสิ้นลงในวันที่ 26 ธ.ค.2561 เนื่องจากพยานปากสุดท้ายคือนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 มีอาการนอนไม่หลับจนป่วยเป็นโรคความดันสูง จึงไม่สามารถขึ้นสืบพยานได้ และฝ่ายอัยการโจทก์ไม่ติดใจที่จะสืบปากนายธานี อีกต่อไปและในวันดังกล่าวศาลจึงให้ทั้งสองฝ่ายยื่นแถลงการณ์ปิดคดีภายในวันที่ 25 ม.ค.2562 ที่ผ่านมา
ส่วนคดีติดสินบนเจ้าพนักงานทางพนักงานสอบสวนและอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง นายเปรมชัย และนายยงค์ โดดเครือ และศาลได้ไต่สวนคดีเสร็จสิ้นเสร็จแล้วและนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 11 มิ.ย.62
ขณะที่คดีครอบครองงาช้างและมีอาวุธปืน พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาฐานไม่มีใบอนุญาต 5 กระบอก , ส่วนคดีงาช้างผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันเป็นงาช้างแอฟริกา จึงแจ้งข้อหากับนายเปรมชัย กับ ภรรยา 4 ข้อหาคือ ลักลอบนำเข้าช้าช้างแอฟริกา , รับซื้อมีไว้ครอบครอง โดยคดีอยู่ในการพิจารณาของศาล