สตม.จับแก๊งเงินดำ ตุ๋นเจ้าของรร.สอนภาษาภูเก็ต สูญ 9 ล.
สตม.จับ "แก๊งเงินดำ" ใช้เฟซบุ๊กปลอมตุ๋นเจ้าของโรงเรียนสอนภาษาภูเก็ต สูญกว่า 9 ล้านบาท
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 มี.ค. 2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายอับดุล คาลัม ซาด ซัตเตอร์ (MR.ABDUL KALAM AZAD SATTAUR) สัญชาติกายอานา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 70/2562 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2562 ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยจับกุมได้ที่เอกกมล แมนชั่น ถ.พังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก 14 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีหญิงไทยเจ้าของโรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าถูกคนร้ายใช้ไลน์ เฟซบุ๊กปลอม โดยนำรูปชายต่างชาติผิวขาว อ้างว่าเป็นคนอเมริกันทำงานที่ประเทศซีเรีย คุยติดต่อกันจนสนิทสนมและหลอก ผู้เสียหายว่าจะส่งตู้เซฟภายในจะมีกระดาษสีดำที่ใช้น้ำยาล้างแล้วจะกลายเป็นธนบัตรสหรัฐมูลค่า 650,000 ดอลล่าสหรัฐ ตีเป็นเงินไทยมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท จากต่างประเทศมาที่ประเทศไทย เมื่อได้เงินมาแล้วจะแบ่งเงินให้กับผู้เสียหาย โดยหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ก่อนโดยอ้างว่าเป็นเงินค่าส่งเงินดำมาจากต่างประเทศ และ ค่าน้ำยาล้างเงินดำ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปให้กับกลุ่มคนร้ายซึ่งเป็นบัญชีที่ต่างประเทศ กว่า 10 ครั้ง ยอดเงินรวมประมาณ 9 ล้านบาท หลังจากนั้นผู้เสียหายไปปรึกษากับเพื่อนจึงเชื่อว่าน่าจะโดนหลอกลวงจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนก่อน
ต่อมาคนร้ายได้ติดต่อมาหาผู้เสียหายอีกครั้งแจ้งว่า จะมีนายอับดุล คาลัม ซาด ซัตเตอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ จะโทรศัพท์หาผู้เสียหายและจะนำเงินดำและนำยาทำความสะอาดเงิน มาให้โดยนัดเจอกันที่ เอกกมล แมนชั่น ผู้เสียหายจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ก่อนนำกำลังไปเชิญตัวมาที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตเพื่อทำการสอบสวน
ทั้งนี้ จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พบว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุจริงจึง รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ ก่อนทำการแจ้งข้อกล่าวหาเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ในส่วนกลุ่มของคนร้ายคนอื่นที่เกี่ยวข้องจะได้เร่งสืบสวนจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป