"นิกร" แถลงผลประเมิน "ชทพ." อาจได้ ส.ส. 11 ที่นั่ง เขต6 - บช.5 ย้ำ "สุพรรณบุรี" ได้ยกจังหวัด คือ ชัยชนะ จี้ "กกต." เคลียร์ปัญหาให้ชัด-ใช้ผู้เชี่ยวชาญคำนวณคะแนนหา ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดอิสระให้ "ผู้สมัคร ส.ส." ร้องกกต. หากพบทุจริตเลือกตั้งในพื้นที่
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวไม่พอใจต่อภาพรวมการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป วันที่ 24 มีนาคม ที่พบว่ามีประเด็นปัญหา อาทิ บัตรลงคะแนนเกินจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง, บัตรเสียจำนวนมาก และ ผลของการลงคะแนนไม่ประสงค์จะเลือกผู้ใด ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องชี้แจงและตอบคำถามในประเด็นดังกล่าวต่อสาธารณะให้ชัดเจน ทั้งนี้กรณีบัตรลงคะแนนเกินจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ตนเชื่อว่าหากมีผู้กระทำไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบัตรเลือกตั้งแตกต่างกันทั้ง 350เขตเลือกตั้ง ส่วนผลการเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคอย่างไม่เป็นทางการ เบื้องต้นคาดว่าจะทำให้พรรคได้ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 6 เขต แบ่งเป็น จ.สุพรรณบุรี ทั้ง 4 เขต คือ นายสรชัด สุจิตต์ , นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ, นายประภัตร โพธสุธน และ นายเสมอกัน เที่ยงธรรม , จ.ร้อยเอ็ด ได้ นายอนุรักษ์ จุรรีมาศ และ จ.นครปฐม ได้ นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์
นายนิกร กล่าวด้วยว่าสำหรับ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคคาดว่าจะได้ทั้งหมด 5 ที่นั่ง ประกอบด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา, นายธีระ วงศ์สมุทร, ตน, นายนพดล มาตรศรี และ นายนิติวัฒน์ จันทร์สว่าง อย่างไรก็ตามคะแนนนิยมที่ประชาชนเลือกพรรค ซึ่งต้องนำมาคำนวณเพื่อหา ส.ส.พึงมีของแต่ละพรรคและจัดสรรให้กับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตนเชื่อว่ามีความซับซ้อนและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญทางด้านคณิตศาสตร์ รวมถึงพิจารณาคำร้องเรียนเรื่องทุจริตการเลือกตั้ง กรณีที่ กกต. ประกาศหรือออกคำสั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่ในบางเขต คะแนนเพื่อคำนวณหา ส.ส.พึงมีต้องถูกทบทวนและพิจารณาหารค่าเฉลี่ยหลังจากเลือกตั้งใหม่เสร็จสิ้น ทั้งนี้ตนมองว่าวิธีเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมจะมีปัญหาเรื่องการคำนวณเพื่อให้ได้มาซึ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างมาก และทำให้ทุกพรรคการเมืองอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
"พรรคชาติไทยพัฒนา ประสบความสำเร็จ และชนะตัวเอง กรณีที่ได้ ส.ส. สุพรรณบุรีทุกเขต ส่วนภาคอีสาน ที่ จ.ร้อยเอ็ด คือการรักษาฐานที่มั่นได้ ขณะที่พื้นที่ภาคใต้ และ ภาคเหนือ แม้การนับคะแนนยังไม่สิ้นสุด แต่สรุปว่าพรรคไม่ได้ ส.ส.ในภูมิภาคดังกล่าว แม้ผมจะไม่พอใจภาพรวมการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่ได้ไม่เสียใจ เพราะพรรคทำอย่างสุดกำลังความสามารถในสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง" นายนิกร กล่าว
นายนิกร ยังกล่าวถึงกรณีที่บางเขตเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพบปัญหาการทุจริตเลือกตั้ง อาทิ การจ่ายเงินซื้อเสียง ว่า ให้สิทธิผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคดำเนินการตามกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของพื้นที่ที่สามารถดำเนินการฟ้องร้อง ต่อ กกต. ได้ โดยประเด็นดังกล่าวไม่จำเป็นต้องพิจารณาจากคะแนนเลือกตั้งในพื้นที่ว่ามีความสูสีหรือเสียเปรียบหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจนถึงขณะนี้มีการติดต่อทาบทามเรื่องร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะแกนนำพรรคมีหลายคน ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่ายังไม่ใช่เวลาพิจารณาถึงเรื่องดังกล่าว ทั้งในนามส่วนตัวและพรรค.