ชี้ปชช.มีบทเรียนวุ่นวาย เหตุปั่นกระแสโจมตี 'พปชร.' ก่อเหตุขัดแย้ง
"สมศักดิ์" ชี้ประชาชนมีบทเรียนจากบ้านเมืองวุ่นวาย เหตุมีคนปั่นกระแสโจมตี "พปชร." หวังจุดชนวนเหตุความขัดแย้ง
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์โจมตีพรรคพลังประชารัฐในโลกออนไลน์ว่า กระแสบนโลกออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือมีใครเสริมเติมแต่งเข้าไปเท่าไร ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องยอมรับ แต่หากเป็นการพยายามสร้างกระแสเพื่อหวังผลทางการเมือง ตรงนี้ต้องระวัง เพราะอาจมีคนที่เป็นหน้าม้า หรือมีคนจ้างมาให้ทำงานปั่นกระแส ทุกวันนี้ข้อมูลหรือข่าวลือต่างๆบนโลกออนไลน์สามารถสร้างขึ้นมาได้ เหมือนเวลาคนถ่ายรูปแล้วลงเฟซบุ๊กหรืออินตราแกรม สมัยนี้มีแอพพลิเคชั่นเสริม เสริมแต่งไปเรื่อยจนบางทีหน้าจริงกับในรูปไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นวันนี้การจะรับข้อมูลอะไรต้องไตร่ตรองและพิจารณาให้ดี ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐเราไม่เคย
“ผมเคยบอกแล้วว่าช่วงนี้เป็นโอกาสท้ายๆของบางกลุ่ม จึงต้องพยายามออกมาทำให้สุด วันนี้มีคนพยายามปลุกกระแสความขัดแย้งของคนในชาติของบางกลุ่มบางคนที่พยายามให้เกิดความเกลียดชังอีกฝ่ายและสร้างเงื่อนไขในการนำไปสู่ความขัดแย้ง แบ่งแยกฝ่าย แต่ผมเชื่อว่าการปลุกกระแสนี้ไม่น่าจะสำเร็จ เพราะประชาชนเห็นบทเรียนความวุ่นวายจากในอดีตมามากแล้ว ไม่มีใครอยากให้ประเทศกลับไปเป็นแบบนั้นอีก ทุกคนอยากให้ประเทศสงบก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.จะมีบทสรุปแน่นอน” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่าแม้กระแสโจมตีเวลานี้จะมาก แต่ก็ไม่ทำให้ พรรคหรือ ว่าที่ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐนั้นหวั่นไหวทุกคะแนนที่ประชาชนตัดสินใจเลือกเพราะแนวนโยบายของพรรค แนวทางการแก้ปัญหาต่างๆ ผลเลือกตั้งชัดเจนว่า พรรคพลังประชารัฐนั้นได้ส.ส.หน้าใหม่มากมายจากทั่วประเทศ ซึ่งสามารถชนะแชมป์เก่าเจ้าของพื้นที่เดิมได้อีกด้วย
ยกตัวอย่างที่ภาคเหนือตอนล่าง เช่น จ.ตาก จ.พิษณุโลก จ.นครสวรรค์ จึงทำให้เห็นได้ชัดว่าประชาชนมั่นใจ และให้ความสำคัญคนที่ทำงานเพื่อประชาชาชน และแนวนโยบายพรรคมากกว่าการโจมตีให้ร้ายป้ายสีผ่านสื่อออนไลน์