รวบแก๊งชาวจีนกว่า16คน ใช้ภูเก็ตเป็นฐานปั่นหุ้น

รวบแก๊งชาวจีนกว่า16คน ใช้ภูเก็ตเป็นฐานปั่นหุ้น

"บิ๊กโจ๊ก" นำกำลังจนท. บุกรวบแก๊งชาวคนจีน 16 คน ใช้ภูเก็ตเป็นฐานปั่นหุ้นหลอกคนชาติเดียวกัน

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 2 เมษายน 2562 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พร้อมด้วยกำลังเจ้าพนักงานตำรวจประจำ ศปอส.ตร. ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต และตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต บูรณาการร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 68/197 หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านถนนขวาง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ภายหลังได้รับร้องเรียนและแจ้งเบาะแสว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการเข้าออกของกลุ่มชาวจีนแบบผิดสังเกต ซึ่งผลการปฏิบัติสามารถจับกุมตัวชาวจีน จำนวน 16 คน เป็นชาย 13 คน และหญิง 3 คน ตรวจยึดคอมพิวเตอร์ จำนวน 18 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 68 เครื่อง พร้อมซิมการ์ดโทรศัพท์กว่าร้อยอันและสมุดจดหมายเลขโทรศัพท์อีกจำนวนมาก

1_9

การปิดล้อมตรวจค้นดังกล่าว สืบเนื่องจาก ศปอส.ตร. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า บ้านหลังดังกล่าวมีกลุ่มชาวจีนเข้ามาพักอาศัยอยู่จำนวนมากและมีลักษณะน่าสงสัย โดยชาวจีนกลุ่มนี้เข้ามาจับกลุ่มรวมตัวกันทำกิจกรรมบางอย่างภายในบ้าน ซึ่งบ้านมีลักษณะสองชั้น มีรั้วรอบขอบชิดยากแก่การมองเห็น และชาวจีนกลุ่มนี้จะไม่ยอมออกจากบ้าน โดยมีการสั่งข้าวกล่องมาส่งทุกวัน จากพฤติการณ์ดังกล่าว ศปอส.ตร.จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประจำ ศปอส.ตร. ศป.ชก.ตร.สนธิกำลังร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจพื้นที่ ร่วมกันตรวจสอบ พบว่า มีการใช้ไฟฟ้าสูงผิดปกติ จากเดิมใช้ไฟอยู่หลักร้อยบาท เป็น 20,000 กว่าบาทต่อเดือน

ทั้งนี้ได้มีการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมชาวจีนกลุ่มนี้ พบว่ามีจำนวน 16 คน ทุกวันจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ตลอด จึงเชื่อว่าน่าจะมีการรวมตัวกัน เพื่อกระทำการอันผิดกฎหมาย และมีพฤติกรรมที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดภูเก็ต และได้รับอนุมัติในวันนี้ (2 เม.ย.62) และจากการเข้าตรวจค้นภายในบ้าย พบชาวจีนจำนวนหนึ่งกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ทั้งชั้นบนและชั้นล่างของตัวบ้าน พบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวน 18 เครื่อง กำลังเปิดใช้งานหน้าจอ เปิดข้อมูลเกี่ยวกับตลาดหุ้น และพบโทรศัพท์มือถือจำนวน 68 เครื่อง ซิมการ์ดโทรศัพท์กว่าร้อยอัน สมุดและกระดาษจดหมายเลขโทรศัพท์จำนวนมาก เบื้องต้นพฤติการณ์ดังกล่าวของกลุ่มชาวจีน แม้ว่าผู้เสียหายจะเป็นกลุ่มชาวจีนแต่การใช้ประเทศไทยเป็นฐานการกระทำผิด ถือได้ว่าอาจเป็นภัยต่อความมั่นคง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตจะดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมโดยละเอียด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายก่อนที่จะส่งตัวกลับ

2_16

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการประสานความร่วมมือกับรัฐบาลจีน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ เนื่องจากผู้เสียหายอยู่ประเทศจีน ซึ่งต้องให้ทางการจีนเป็นผู้สรุป ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีนอกจากกลุ่มชาวจีนดังกล่าวแล้ว จะมีการดำเนินคดีกับทางเจ้าของบ้านที่ให้เช่าด้วย เนื่องจากไม่มีการแจ้งการพักอาศัยของชาวต่างชาติกับตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะมีโทษปรับต่อชาวต่างชาติคนละ 1,600 บาท ส่วนคนไทยที่เป็นผู้ทำหนังสือสัญญาเช่า ซึ่งทราบว่าเสียค่าเช่าเดือนละ 45,000 บาท และเช่ามาแล้วเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีส่วนเกี่ยวพันกันอย่างไร

ทั้งนี้ในส่วนของสถานการณ์แก็งค์คอลเซ็นเตอร์หรือแก็งค์สลิมเมอร์ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มลดลง เนื่องจากที่ผ่านมามีการตรวจสอบและจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นคนไทยปัจจุบันแทบไม่มีให้เห็นอีกเลย แต่ที่ยังมีอยู่จะเป็นลักษณะของชาวต่างชาติที่หลอกลวงกันเอง โดยใช้ประเทศไทย โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต พัทยา หาดใหญ่ กรุงเทพฯ เป็นต้น เป็นแหล่งพักพิงและเป็นฐานในการก่อเหตุ ฉะนั้นความร่วมมือผ่านแดนจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะคนกลุ่มนี้จะใช้วีซ่านักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้ามา และการกระทำผิดคงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่มีคนไทยให้ความร่วมมือ ซึ่งหากมีการตรวจพบก็จะมีความผิดเช่นกัน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือไปยังผู้ที่จะให้ชาวต่างชาติเข้าพักได้แจ้งข้อมูลกับทางตรวจคนเข้าเมือง เพราะไม่เช่นนั้นท่านก็จะมีความผิดด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอแก้ไข พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อปรับเพิ่มทั้งในส่วนของโทษปรับ และเพิ่มการจำคุกด้วยสำหรับผู้ที่ไม่ยอมแจ้งการเข้าพักของชาวต่างชาติ