ตำรวจดอนเมือง โชว์จับยาบ้า 5.9 แสนเม็ด หลังเอเย่นแอบซุกไว้ในรถยนต์เตรียมส่งให้ลูกค้า แต่เกิดไหวตัวทันจอดรถทิ้งเอาไว้บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ14 ย่านทุ่งสองห้อง
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 3 เม.ย.2562 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.สุทธิพร สุกก่ำ รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติด พร้อมของกลาง ยาบ้า 596,000 เม็ด รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนด์เงิน ทะเบียน ศง6097 กรุงเทพ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้สืบทราบว่าจะมีการนัดหมายส่งมอบยาเสพติด บริเวณถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จึงได้นำกำลังออกตรวจตรา กระทั่งเมื่อเวลา 05.00 น.ของวันที่ 2 เม.ย.พบรถยนต์ต้องสงสัย จอดทิ้งไว้บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ14 แขวงทุ่งสองห้อง เขตดอนเมือง จึงได้ทำการซุ่มโป่งสังเกตตการณ์ จนกระทั่งถึงเวลา 06.30 น.ของวันที่ 3 เม.ย. แต่ไม่พบกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมารับรถคันดังกล่าว จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะไหวตัวทันและทิ้งรถหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการตรวจค้น พบกุญแจรถวางอยู่ที่ล้อหน้าด้านขวา และเมื่อทำการเปิดกระโปรงท้ายรถ พบกระสอบข้าวจำนวน 3 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้ามัดอย่างดีจำนวน 300 มัด จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ
ทางด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ในการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ทางเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม สน.ดอนเมือง ได้จับกุมนายอัครพล ช้างกร อายุ 31 ปี ขณะขับขี่จักรยานยนต์ อยู่บริเวณภายในโรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ (โรงงานร้าง) ถนนวิภาวดี80 แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง โดยกำลังนำยาบ้าจำนวน 20,000 เม็ด ไปส่งให้กับลูกค้า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า กลุ่มเครือข่ายดังกล่าวจะมีการลักลอบส่งยาเสพคิดอีก จึงได้นำกำลังออกตรวจตราจนสามารถตรวจยึดของกลางในครั้งนี้ได้เป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ฯ จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมถึงตรวจสอบรถคันดังกล่าวว่าเป็นของใคร มีที่มาที่ไปอย่างไร เหตุใดจึงถูกนำมาจอดทิ้งไว้ เพื่อสืบสวนขยายผลหากลุ่มผู้กระทำผิด ส่วนของกลางจะส่งให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรถยนต์คันดังกล่าวจากการตรวจสอบทะเบียนรถ พบว่ามีชื่อของหญิงคนหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐมเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดดังกล่าวด้วยหรือไม่