รวบมือยิงญาตินายกอบต.พรุดินนา ดับต่อหน้าหลาน 9 ขวบ
"กองปราบ" รวบผู้ต้องหามือยิงญาตินายก อบต.พรุดินนา จ.กระบี่ ดับต่อหน้าหลาน 9 ขวบ
เมื่อวันที่ 9 เมษายน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว สว.กก.6 บก.ป. พ.ต.ต.วริศร มัจฉา สว.กก.6 บก.ป. และตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุมนายพิศาล หรือเล็ก ทองมุณี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ที่ 7 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ที่ 452/2561 ลงวันที่ 19 กันยายน 2561 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุอันสมควร” โดยจับกุมได้ที่ขนำไม่มีเลขที่ ข้างบ่อกุ้ง หมู่ที่ 5 ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2561 เวลาประมาณ 00.15 น.คนร้ายได้ลอบยิงนายสาคร จันทร์แสง อายุ 54 ปี หน้าบ้านเลขที่ 124/2 ม.7 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นญาติ นายกอบต.พรุดินนา เสียชีวิต ต่อหน้าภรรยาและหลาน 9 ขวบ และทางญาติได้เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม เนื่องจากพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้มีประวัติอาญชากรรมหลายคดีและเกิดอาการหวาดกลัว หลังจากเหตุพนักงานสอบสวน สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้รับคำร้องทุกข์ดำเนินคดีและรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขอหมายจับผู้ก่อเหตุต่อศาลจังหวัดกระบี่ จำนวน 2 ราย คือ นายพิศาลหรือเล็ก ทองมุณี และนายพรเทพ สามสี
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจนทราบว่า นายพิศาล มือยิง ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ มากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ควนเนียง จ.สงขลา จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านาย พิศาลเคยถูกจับกุมในความผิดฐาน พยายามฆ่า , พ.ร.บ.ยาเสพติด ,พ.ร.บ.อาวุธปืน และความผิดเกี่ยวกับบุกรุก เพิ่งพ้นโทษมาประมาณ 4 เดือน ก่อนมาก่อเหตุยิงนายสาครเสียชีวิต ส่วนนายพรเทพ ผู้ต้องหาอีกราย เจ้าหน้าตำรวจกำลังสืบสวนเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
จากการสืบสวนทราบว่า นายพิศาล ได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ขนำไม่มีเลขที่ ข้าง บ่อกุ้ง ม.5 ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบว่า มีตำหนิรูปพรรณตรงกันกับหมายจับ จึงได้แสดงหมายจับให้นายพิศาลดู รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับมาก่อน จึงจับกุมตัวนายพิศาลนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ ดำเนินตามกฎหมายต่อไป