พบแล้วพ่อเลี้ยงฆ้อนโหด กินยาเบื่อหนูหวังฆ่าตัวตาย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 13 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิสยามรวมใจ พบผู้กินยาฆ่าแมลง หมดสติ น้ำลายฟูมปาก บนถนนแฮปปี้แลนด์สาย 2 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบเป็นนายภูมใจ เหลืองทอง ผู้ต้องหา หนีคดีที่ก่อเหตุใช้ฆ้อน ทุบศรีษะลูกเลี้ยงเสียชีวิต ทั้งนี้ได้นำตัวส่งรพ.นพรัตน์ แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพลเมืองดีพบเห็นชายนอนน้ำลายฟูมปากอยู่บริเวณกองขยะข้างถนนแฮปปี้แลนด์ สาย 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพและตำรวจให้มาตรวจสอบ เมื่อตำรวจมาถึงพบว่าหน้าตาคล้ายนายภูมใจ ผู้ต้องหาตามหมายจับสน.คันนายาว จึงสอบถามว่าชื่อนายภูมใจ หรือไม่ชายดังกล่าวพยักหน้าตอบพร้อมพูดว่าตนฆ่าลูกสาวมา เจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงนำตัวส่งรพ.นพรัตน์ ส่วนทางตำรวจสน.ลาดพร้าว ได้ประสานให้สน.คันนายาว ตรวจสอบเพื่ออายัดตัวไปสอบสวนอีกครั้ง
ด้านพ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว กล่าวว่าได้รับแจ้งแล้วขณะนี้กำลังไปตรวจสอบที่รพ.นพรัตน์ เชื่อว่าเป็นคนร้าย 90%
ขณะที่น.ส.พิศมัย หงษากัน อายุ 39 ปี แม่ค้าผู้พบเห็นผู้ต้องหาคนแรก กล่าวว่า ขณะกำลังทำอาหารอยู่ที่ร้าน สายตาเหลือบไปเห็นคนนอนดิ้นตะกุยตะกายอยู่ จึงหันไปดู แต่ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตั้งแต่กี่โมง จากนั้นจึงให้แฟนเข้าไปดูว่าเป็นใคร เป็นคนรู้จักหรือไม่ พบว่าไม่ใช่คนแถวนี้ จึงโทรแจ้ง 191 กับมูลนิธิให้มาเข้าช่วยเหลือ เพราะเห็นว่ามีน้ำลายฟูมปากแล้ว ซึ่งตอนนั้นยังพูดคุยรู้เรื่องถามเขาว่าเมาหรือไม่ เขาตอบว่า ไม่ และบอกเพียงว่า ได้กินยาเบื่อหนู และได้ฆ่าลูกสาวมา เมื่อถามว่าใช่คนเป็นข่าวหรือไม่ เขาตอบกลับมาว่าใช่
ต่อมา เวลา 12.00 น.ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ถนนรามอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กรุงเทพฯ พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ได้เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมเปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากตำรวจ สน.ลาดพร้าวว่า พบผู้ต้องหาตามหมายจับแล้ว โดยมีแม่ค้าขายอาหารที่บริเวณอู่รถเมล์สาย 2 แฮปปี้แลนด์ พบผู้ต้องหานอนสลบกินยาฆ่าตัวตาย จึงแจ้งกู้ภัยและตำรวจ จากนั้น ได้ส่งตัวมาโรงพยาบาลนพรัตน์ฯ เพื่อรักษาตัว
จากการตรวจสอบในกระเป๋าพบสมุดธนาคารชื่อนายภูมใจ เหลืองทอง เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง ส่วนอาการของนายภูมใจขณะนี้อยู่ในความดูแลรักษาของแพทย์ ทราบว่ายังมีสติอยู่ แต่อย่างไรก็ตามจ ะต้องดูแลอาการติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุย เนื่องจากยังอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์อยู่ หากผู้ต้องหารักษาตัวจนดีขึ้นแะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ก็จะควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.สิงห์ เปิดเผยต่อว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (5) ต้องระวางโทษประหารชีวิต เพราะพบพฤติกรรมของผู้ต้องหาจากการตรวจพิสูจน์หลักฐานพบมีร่องรอยการทำร้ายบริเวณท้อง ลำตัว และศีรษะ กับหญิงที่ไม่สามารถต่อสู้ได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันแรกที่ทำคดีตำรวจเข้าใจความรู้สึกของญาติผู้เสียชีวิต ที่สูญเสียและมีความโกรธแค้นได้มาที่โรงพยาบาลกันหลายคน จึงอยากไปถึงญาติว่าผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการตายกฎหมายแล้ว อย่ากระทำการใดทั้งการบุกเข้ามาในโรงพยาบาลหรือการทำร้ายผู้ต้องหา เพราะไม่เช่นนั้น เราอาจจะถูกดำเนินคดีเสียเอง ได้สั่งกำชับแล้วขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ได้จัดกำลังตำรวจไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนีและดูแลความเรียบร้อย
ด้านน.ส.ธัญชนก สามีพันธ์ อายุ 42 ปี น้าของผู้ตาย เปิดเผยว่า วินาทีที่ทราบว่า นายภูมใจ ถูกควบคุมตัว ขณะนั้นตนและญาติรวมตัวกันอยู่ที่วัดสัมมาชัญญาวาส และได้ถวายสังฆทานพระภิกษุสงฆ์เสร็จพอดี ทันทีที่ทราบเรื่องจึงรีบมายังโรงพยาบาลนพรัตน์ ขณะนี้ญาติมารวมตัวกับเพื่อนของสามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทุกคนอยากมาเห็นหน้านายภูมใจ ทั้งนี้ยอมรับในฐานะญาติของผู้ตายว่า ส่วนตัวไม่ค่อยลงรอยกับนายภูมใจ เนื่องจากเชื่อว่าโทรศัพท์มือถือของตนที่เคยหายไปนั้น นายภูมใจอาจจะเป็นคนนำไป แต่ก็พยายามไม่ติดใจ และมองว่านายภูมใจเป็นญาติคนหนึ่ง และพยายามไม่สุงสิงด้วย ส่วนแม่ของผู้เสียชีวิตรับไม่ได้ ไม่อยากเจอ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับนายภูมใจอีก
“ไม่ต้องไปขอขมา ไม่ให้อภัย อยากให้เขาตายแบบทุรนทุราย ยืนยันว่าจะไม่ให้อภัยหรืออโหสิกรรมผู้ก่อเหตุเด็ดขาด เพราะสิ่งที่ทำมันเกินไป”น.ส.ธัญชนก ระบุ
ด้านนายอ๊อฟ เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ภาวนาอย่าให้นายภูมใจเสียชีวิต เพราะอยากเห็นหน้าและพูดคุยคุยสอบถามเหตุผลว่าทำไมถึงลงมือฆ่า ทั้งๆ ที่ผู้ตายไม่เคยทำอะไรให้ และกำลังตั้งครรภ์ท้องแก่อยู่ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังก่อเหตุนายภูมใจได้หลบหนีไปยังจ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่เวลา 03.00 น. วันที่ 13 เมษายน นายภูมใจ จะเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนนำรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีดำแดง 7กย439 กทม มาจอดทิ้งไว้ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ถนนสังฆสันติสุข แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพฯ จากนั้นได้เรียกรถแท็กซี่ ก่อนจะพบว่านายภูมใจได้ซื้อยาเบื่อหนู 4 ซอง ไม่ใกล้จากจุดพบตัวนายภูมใจ และเดินกินยาเบื่อหนูตั้งแต่คลองพังพวยมาจนถึงอู่รถเมล์ ถ.เเฮปปี้เเลนด์สาย 2 ก่อนจะมีคนพบและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบและนำส่งโรงพยาบาล