ศาลนัดตรวจหลักฐาน 'โจ๋งานบวชวัดสิงห์ 22 คน' 27 พ.ค.นี้
"แก๊งโจ๋งานบวชวัดสิงห์ 22คน" รอตั้งทนายสู้คดี บุก ร.ร.วัดสิงห์-ทำร้ายครู-นร.-อนาจาร หลังอัยการฟ้องก่อนสงกรานต์ ตัวอยู่เรือนจำ ส่วน 4 เยาวชนอัยการ รอฟ้องศาลเยาวชนฯ 23 เม.ย.นี้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 เม.ย.62 ที่ศาลอาญาธนบุรี ถ.เอกชัย-บางบอน ศาลได้นัดสอบคำให้การจำเลย ที่ร่วมงานบวชพระวัดสิงห์ได้บุกรุก-ทำร้ายร่างกายอาจารย์และนักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ระหว่างการสอบ GAT-PAT เมื่อวันที่ 24 ก.พ.62 ในคดีหมายเลขดำ อ.399/2562 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 3 ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายมนตรี หรือ อุ๊ พูลทรัพย์ อายุ 32 ปี กับพวกกลุ่มชายฉกรรจ์ อายุตั้งแต่ 18 ปีเศษ - 41 ปี รวม 22 คน เป็นจำเลยที่ 1-22 ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง , ร่วมกันบุกรุกเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้าย และโดยกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ , ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ , ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย เสรีภาพ และทรัพย์สินของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป , กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ต่อหน้าธารกำนัล , บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา 215 , 278 , 281 , 295 , 309 , 358 , 362 , 365 , พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 3 , 31 , 42 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 91 , 92
โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.62 จำเลยทั้ง 22 คน กับนายพีรยุทธหรือบอลเสริฐพูล ซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง และเยาวชนอีก 4 คน ซึ่งได้แยกดำเนินคดีแล้ว ได้ดื่มสุราและเบียร์ ภายในบริเวณวัดสิงห์ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง (ช่วงพิธีบวชพระ) ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนา โดยพวกจำเลยได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปภายในบริเวณโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ผู้เสียหายที่ 1 โดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับอนุญาตระหว่างที่โรงเรียนได้สอบทางวิชาการ GAT/PAT ซึ่งจำเลยทั้ง 22 คนกับพวกได้ร่วมกันใช้กำลังชกต่อยนายพนมราช บุญนิรันดร์ พนักงาน รปภ.ของโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ 3 ที่บริเวณใบหน้าจนเป็นแผลหลายแห่ง และยังชกต่อยนางละไมล์ ใจเที่ยง ผู้เสียหายที่ 4 ที่บริเวณหลัง อีกหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้จำเลยทั้ง 22 คนกับพวกยังได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปภายในห้องทำงานของนายบุณยพงศ์ โพธิวัฒน์ธนัต ผอ.โรงเรียน ผู้เสียหายที่ 2 ชกที่บริเวณใบหน้าด้วยอีกหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บฟกช้ำ แล้วยังร่วมกันบุกรุกเข้าไปภายในห้องเรียนขณะที่นักเรียนกำลังสอบ ก่อนร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายฉัตราภัทร์ นามจันดี ครูที่คุมสอบ ผู้เสียหายที่ 5 ที่บริเวณใบหน้าและใช้เก้าอี้กับโต๊ะไม้ทุ่มใส่ด้วยทำให้ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฟกช้ำ กับชกต่อยตบที่ใบหน้า-เตะ นักเรียนชายอีก 7 คน ผู้เสียหายที่ 8,10,11,12,13,14,16 และดึงกระชากเสื้อนักเรียนบางคนจนขาดกับทำให้แว่นสายตาของนักเรียนเสียหายใช้การไม่ได้รวมเป็นเงิน 1,260 บาท และยังได้ดึงไหล่-ศอก นักเรียนชายอีกคน ผู้เสียหายที่ 15 และยังร่วมกันทำร้ายนักเรียนหญิงอีก 2 คน ผู้เสียหายที่ 6-7 โดยตบที่บริเวณใบหน้าหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลพกช้ำที่แก้ม , ขากรรไกร และเปลือกตา กับผลักนักเรียนหญิง ผู้เสียหายที่ 9 จนได้รับบาดเจ็บ
โดยระหว่างก่อเหตุ "นายวัลลภ หรือเอกไฝ นุชแฟง" จำเลยที่ 2 ยังได้กระทำอนาจาร ใช้แขนโอบกอดเอวนักเรียนหญิง ผู้เสียหายที่ 7 พร้อมคำพูดไม่เหมาะสมต่อหน้าบุคคลอื่นด้วย นอกจากนี้ พวกจำเลยยังร่วมกันทำให้ทรัพย์สินของโรงเรียนเสียหายอีกหลายรายการ อาทิ โทรทัศน์สีขนาด 43 นิ้ว โถเซรามิคบ่อน้ำพุ เครื่องฉายภาพทึบแสง โต๊ะ-เก้าอี้นักเรียน พัดลม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 24,300 บาท ชั้นสอบสวนจำเลยมีทั้งรับสารภาพบางข้อหา และปฏิเสธบางข้อหา ซึ่งท้ายฟ้อง อัยการโจทก์ขอให้ศาลได้โปรดลงโทษจำเลยตามอัตราโทษขั้นสูงของกฎหมายเนื่องจากการกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการกระทำที่ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย อาศัยที่มีพวกมากบุกรุกเข้าไปในโรงเรียน ทำร้ายเด็กนักเรียน และครูผู้คุมสอบ ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย โดยไม่เลือกว่าเป็นใคร ทั้งที่ไม่รู้จักและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน เป็นการข่มเหงรังแกผู้อื่นเพื่อความสะใจ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่นและเพื่อความสงบสุขของสังคมโดยรวม
พร้อมกันนี้ อัยการก็ได้คัดค้านการให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 22 คนด้วย เนื่องจากจำเลยมีเป็นจำนวนมาก ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย จึงอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และในส่วนของนายสมชาย หรือปี๊ด แก้วสิมมา อายุ 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด จำเลยที่ 7 กับนายธวัช หรือวัช สดำพงษ์ อายุ 33 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ จำเลยที่ 9 ขอให้เพิ่ม 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ด้วย เนื่องจาก "นายสมชาย" จำเลยที่ 7 เคยต้องโทษคดีเสพเมทแอมเฟตามีนในศาลแขวงธนบุรีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วจำคุก 4 เดือน 15 วัน โดยจำเลยที่ 7 พ้นโทษมาเมื่อวันที่ 15 ม.ค.60 และ "นายธวัช" จำเลยที่ 9 เคยต้องโทษคดีมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายในศาลอาญาธนบุรี ที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วจำคุก 9 เดือน โดยจำเลยที่ 9 พ้นโทษมาเมื่อวันที่ 8 เม.ย.58 แล้วทั้งสองมากระทำผิดในคดีนี้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงเวลา 5 ปีนับแต่วันพ้นโทษอีก
โดยวันนี้ "ศาล" ได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 22 มาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งจำเลยทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ในเรือนจำตั้งแต่ชั้นฝากขัง และเมื่อศาลสอบถามจำเลยทั้ง 22 คน ว่ามีทนายความแล้วหรือไม่ มีจำเลย 10 คนแถลงขอศาลตั้งทนายความให้ ส่วนจำเลย 12 คนแถลงยังไม่มีทนายความ แต่จะหาทนายความเอง ศาลจึงนัดพร้อมสอบคำให้การและตรวจหลักฐานคดี ในวันที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มที่เป็นเยาวชน อีก 4 คน ที่เป็นชายอายุ 16 ปี 2 คน และอายุ 17 ปี อีก 2 คน ซึ่งร่วมกับกลุ่มชายฉกรรจ์งานบวชพระวัดสิงห์นั้น ก็แยกดำเนินการตามขั้นตอน ตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ในศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยอัยการกำหนดนัดจะยื่นฟ้องคดีต่อศาลเยาวชนฯ ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ซึ่งชั้นสอบบสวนของตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหาฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป