เยอรมนีย้ำไม่กู้เงินรอบใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายโอลาฟ โชลซ์ รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ทำการกู้เงินครั้งใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและโดยส่วนตัวเขาเห็นด้วยกับการไม่ก่อหนี้เพิ่ม
นอกจากนี้ นายโชลซ์ ยังเตือนว่า เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า เช่น จีนและสหภาพยุโรป รวมทั้งความไม่แน่นอนของการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) แต่มั่นใจว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่รัฐบาลปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจเหลือเพียง 0.5% ในปีนี้
ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานของเยอรมนี แถลงว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 0.5% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่รัฐบาลเยอรมนีปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.8% และมีการปรับลดครั้งแรกสู่ระดับ 1% ในเดือนม.ค.
กระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานระบุว่า เศรษฐกิจเยอรมนีได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเบร็กซิท
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเยอรมนีคาดการณ์ว่าจำนวนผู้มีงานทำในประเทศจะเพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 45 ล้านคนภายในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ รัฐบาลยังคาดว่าแนวโน้มการใช้จ่ายด้านทุนของภาคธุรกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ขณะที่การลงทุนในภาคก่อสร้างมีความสดใส โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ