บุกรวบแม่ค้าไลฟ์สด ขายสินค้าแบรนด์เนมปลอม
สืบนครบาล บุกรวบแม่ค้าไลฟ์สดขายสินค้าแบรนด์เนมปลอม มูลค่าเสียหาย 1.5 ล้าน เผยสั่งสินค้าจากจีน รอจำหน่ายลูกค้าจำนวนมาก
ที่บก.สส.บช.น. เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 2 พฤษภาคม พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น.พ.ต.อ.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล รอง ผบก.สส.บช.น. และ.พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผกก.5บก.สส.บช.น. ร่วมกันนำกำลังตำรวจ กก.5บก.สส.บช.น. และตำรวจ สน.นิมิตรใหม่ จับกุม น.ส.ลลิล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาไลฟ์สดขายสินค้าเลียนแบบเครื่องหมายการค้าบนโลกออนไลน์
พร้อมของกลาง เป็นสินค้าเลียนแบบเครื่องหมายการค้าประเภท เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ยี่ห้อ Gucci จำนวน 709 ชิ้น ยี่ห้อ Starbuck จำนวน 298 ชิ้น ยี่ห้อ Superman จำนวน 5 ชิ้น ยี่ห้อ Snoopy จำนวน 2 ชิ้น ยี่ห้อ Mickey Mouse จำนวน 303 ชิ้น ยี่ห้อ Kitty จำนวน 167 ชิ้น ยี่ห้อ Paul Frank จำนวน 174 ชิ้น ยี่ห้อ Doraemon จำนวน 70 ชิ้น ยี่ห้อ Puma จำนวน 12 ชิ้น และยี่ห้อ Adidas จำนวน 200 ชิ้น รวมทั้งหมด 1,940 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 1,500,000 บาท ตลอดจนตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Huawei จำนวน 1 เครื่อง และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก ยี่ห้อ HP จำนวน 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 406/59 หมู่บ้านอาร์เค พาร์ค 406 ถนนเลียบคลองสอง เขตคลองสามวา กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สส. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากบริษัทเจ้าของเครื่องหมายการค้าหลายราย มีผู้ใช้เพจเฟสบุ๊กทำการไลฟ์สด นำสินค้าที่มีการปลอมแปลงมาจำหน่ายให้ลูกค้า จากนั้นทางตำรวจจึงทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาเป็นบุคคลที่จำหน่ายสินค้าลักษณะดังกล่าว จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบว่าบ้านหลังนี้มีสินค้าที่รอการจำหน่ายอีกจำนวนมาก ตลอดจนมีแนวทางการสืบสวนพบอีกว่าผู้ต้องหาได้สั่งสินค้าเหล่านี้มาจากประเทศจีน ก่อนจะนำมาจำหน่ายดังกล่าว ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และอาจเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ และเศรษฐกิจของประเทศ
ต่อมาทางตำรวจได้ขออนุมัติขอหมายตรวจค้นบ้านหลังนี้ จากนั้นจึงนำกำลังไปทำการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางสอบสวน ที่ บก.สส.บช.น.
อย่างไรก็ตามทางตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ เบื้องต้นทางตำรวจ ทำการแจ้งข้อหา “มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า ปลอม และเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป